ดลมนัส กาเจ
“อาจารย์สาย” ยืนยันราชาทุเรียนมาเลเซีย “มูซังคิง” สุก 90% สามารถตัดมาบ่มได้ คุณภาพของเนื้อทุเรียนจะแห้ง เหนียว เนียนกว่า คงรูปและสีสัน รวมถึงรสชาตจะอร่อยที่สุกคาต้นและหล่นลงมา ระบุแม้ก้นอาจจะแตก แต่ยืนันว่ายังมีความเหนียว เนียน เก็บได้นาน และอร่อยสมกับที่ราคาแพงขายเกรดพรีเนี่ยม
นายอนวัช สะเดาทอง หรือ “อ.สาย” นักวิชาการ และกรรมการบริษัท โกลเด้นคิง แพลนท์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายต้นกล้าราชาทุเรียนมาเลเซียย “มูซังคิง”(Musangking) หรือ “เหมา ซาน หวาง” ยืนยันว่า ตามที่คอทุเรียนจำนวนไม่น้อยยังข้องใจหลายเรื่องราวเกี่ยวกับทุเรียนมูซังคิงว่า จะต้องรอให้สุกคาต้นแล้วปล่อยให้ร่วงหล่นเองจึงจะนำมาบริโภคได้ ที่จริงในประเทศมาเลเซียปลูกทุเรียนมูซังคิงปล่อยแบบธรรมชาติ ที่ปลูกตามเนินภูเขา แทบจะไม่มีการตัดแต่งกิ่ง จัดระบบน้ำปล่อยให้ต้นทุเรียนสูง จึงนิยมปล่อยให้ทุเรียนร่วงหล่นเองมาจากต้นจึงจะนำไปจำหน่ายหรือบริโภคได้
“เกษตรกรที่ปลูกในบ้านเราโดยเฉพาะที่ อ.เบตง จ.ยะลา ตอนนี้นิยมตัดจากต้นแล้ว แต่ต้องให้สุก 90% ก่อนจึงจะตัดได้ ให้สังเกตดูได้หลายกรณี อาทิ หากมีผลลูกใดตกร่วงลงมาจากต้นแสดงว่าทุเรียนรุ่นนั้นสุกแล้ว ตัดมาบ่มได้ หากต้องการบริโภคให้ดมหากมีกลิ่นหอมแบบทุเรียนสุกแสดงนำมาบริโภคได้แล้ว เนื้อทุเรียนที่ตัดจากต้นจะแห้งกว่า เหนียวและเนียนกว่า รูปทรงและสีจะสวยกว่า ที่สำคัญอร่อยกว่าด้วย หรืออีวิธีหนึ่งให้นับเอา หากผลทุเรียนมีอายุครบ 100 วัน ก็ตัดได้เช่นกัน เพราะมูซังคิงเป็นทุเรียนที่สุกเร็วเพียง 100 วันเท่านั้น ” นายอนวัช กล่าว
อ.สาย บอกด้วยว่า ที่ “สวนศักดิ์ศรี” ของ นายศักดิ์ศรี สง่าราศรี ที่บ้านบ่อนำร้อน ต.ตาเนาะแมเราะ อ.เบตง จ.ยะลา ซึ่งปลูกทุเรียนมูซังคิง ตัดขายทางออนไลน์ และส่งทางไปษณีย์ทั่วประเทศในราคา กก.ละ 650 บาท ก็ใช้วิธีตัดเช่นกัน แต่กระนั้นเพื่อเพื่อที่จะให้ทุเรียนเรียนมูซังคิงออกผลผลิตที่สุกพร้อมๆในเวลาไล่เลี่ยกัน ควรจะจัดการระบบการผสมดอกด้วย (รายละเอียดฟังในคลิป)
สนใจจะปลูกทุเรียนหรือต้องการทราบรายละเอียดเกียวกับทุเรียนมูซังคิงสอบถามได้ที่โทร.08-1554-6816