ได้ฤกษ์งาม ยามดีหว่านปอเทืองบำรุงดิน ในแปลงเกษตรอินทรีย์ที่ยโสฯกันแล้ว

  •  
  •  
  •  
  •  

ได้ฤกษ์งาม ยามดีดี ถึงฤดูกาลหว่านปอเทืองกันแล้ว เพื่อบำรุงดิน ก่อนปลูกพืชเกษตรอินทรีย์ ที่ “ทุ่งปอเทือง สู่ขวัญ สู่ชัย ไท ยโส” ของกลุ่มเกษตรกรอินทรีย์ ต.ลุมพุก อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร พร้อมกับการเปิดงาน ผ้าป่าสามัคคี ทำนุบำรุงพุทธศาสนา สู่ขวัญ สู่ชัย ไทยโสธร ท่ามกลางผู้คนจากชาวเมืองเกษตรอินทรีย์ รวมพลังกว่า 3,000 คน ทั้งผู้นำท้องถิ่นและนักธุรกิจในพื้นที่ให้การสนับสนุน จนงานสำเร็จเป็นอย่างดี

        นายวสันต์ ชัยภูมิ นายกองการบริหารส่วนตำบลลุมพุก(นายกฯแวง อบต.ลุมพุก) อำเภอคำเขื่อนแก้ว ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มปลูกฮัก เล่าถึงกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ว่า จังหวัดยโสธรได้รับการยกระดับให้เป็นเมืองเกษตรอินทรีย์ต้นแบบของประเทศไทย ซึ่งได้มีการพัฒนาพื้นที่การเกษตรจากการเกษตรแบบดั้งเดิมที่มีการใช้สารเคมีต่างๆในแปลงเกษตร และเริ่มปรับเปลี่ยนการเพาะปลูกมาเป็นระดับเกษตรปลอดภัย จนถึงเกษตรอินทรีย์เต็มตัวเมื่อหลายปีที่ผ่านมา อำเภอคำเขื่อนแก้ว เป็นหนึ่งในพื้นที่เป้าหมายของทางจังหวัดและได้พัฒนาปรับเปลี่ยนจนได้มาตรฐานแปลงเกษตรอินทรีย์ที่ได้รับรองมาตรฐานจากหลายองค์กรทั้งในประเทศและต่างประเทศ หนึ่งในผลงานที่โดดเด่นคือแตงโมอินทรีย์ ที่ดำเนินในนามของกลุ่มปลูกฮัก ซึ่งมีศูนย์กลางของกลุ่มอยู่ที่ ตำบลลุมพุก และขยายเครือข่ายออกไปหลายตำบลและหลายอำเภอในจังหวัดยโสธร

 

         นอกจากปลูกแตงโมอินทรีย์แล้วยังได้ขยายเครือข่ายออกไปเป็นกลุ่มเกษตรอินทรีย์ปลูกพืชผักสวนครัว และนาอินทรีย์กันอีกหลายกลุ่มย่อย และในโอกาสที่กลุ่มปลูกฮัก ได้รับรางวัลเลิศรัฐระดับประเทศ ถึง 3 รางวัล จึงได้จัดกิจกรรมเชิญชวนสมาชิกและพี่น้องเกษตรกร ได้มาจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ของเมืองเกษตรอินทรีย์ ที่มีการปรับปรุงดินกินก่อนการเพาะปลูกทุกครั้ง ทุกฤดูกาล โดยกิจกรรมในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในอาชีพ ที่เป็นชาวจังหวัดยโสธร พร้อมทั้งนักการเมืองท้องถิ่นที่มีหัวใจพัฒนามาช่วยอีกแรง

        “การจัดงานในครั้งนี้เราได้แสดงออกถึง การสำนึกรักบ้านเกิด แสดงความรักความสามัคคีของชาวอำเภอคำเขื่อนแก้วและอำเภอใกล้เคียง พื้นที่การหว่านปอเทืองในครั้งนี้ประมาณ 10 ไร่ โดยจะใช้เป็นแปลงสาธิตในการปลูกพืชปรับปรุงดิน และจะเป็นจุดเช็คอิน ถ่ายภาพของผู้คนที่ผ่านไป-มา เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรไปในตัวก่อนที่จะใช้เป็นพื้นที่ปลูกพืชอินทรีย์ต่อเนื่องกันไป นอกจากนี้พื้นที่ด้านหน้าแปลงปอเทืองจะพัฒนาเป็นตลาดชุมชน เป็นศูนย์จำหน่ายผลผลิตของสินค้าเกษตรอินทรีย์และสินค้าชุมชนของเกษตรกรในพื้นที่อำเภอคำเขื่อนแก้ว และอำเภอใกล้เคียง โดยมีผู้นำท้องถิ่น คุณชื่น วงษ์เพ็ญ สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ซึ่งเป็นคนอำเภอคำเขื่อนแก้วและเป็นที่ปรึกษากลุ่มปลูกฮัก ประสานงานกับนักธุรกิจที่เป็นเจ้าของสถานที่ ขอใช้พื้นที่ให้เป็นตลาดชุมชน เพื่อพี่น้องเกษตรกรและประชาชนได้ใช้ประโยชน์เพื่อจำหน่ายผลผลิตและสินค้าชุมชนต่อไป” นายแวง  กล่าว

         เขา บอกด้วยว่า การจัดงานหว่านปอเทืองในครั้งนี้ ได้มีกิจกรรมทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาด้วยการจัดงาน “ทอดผ้าป่าสามัคคี ทำนุบำรุงศาสนาและสู่ขวัญ สู่ชัย ไทยโสธร” 15 วัด 15 กองบุญเป็นการสิบสานวัฒนธรรม ประเพณีอันดีงาม ของพุทธศาสนิกชน เป็นการสร้างบุญ สร้างกุศลร่วมกันของพี่น้องชาวยโสธรด้วยกัน งานนี้ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากมาย ได้รับความสนใจจากพี่น้องประชาชนเกษตรกรในพื้นที่และใกล้เคียงมาร่วมงานกันมากมาย กว่า 3,000 คน จากนี้ต่อไปก็จะเข้าสู่ฤดูการเพาะปลูกพืชหลังนา เป็นพืชอายุสั้นและปลูกแบบเกษตรอินทรีย์ ซึ่งจะมีพืชผลทางการเกษตรมากมาย เช่น แตงโมอินทรีย์ หอมแดงอินทรีย์ พืชผักสวนครัวอีกมากมายที่ใช้บริโภคในครัวเรือนเหลือส่งขายในตลาดชุมชนและตลาดสากลทั่วไป

        ด้านนายชื่น วงษ์เพ็ญ ในฐานะตัวแทนชาวบ้านในท้องถิ่นและเป็นผู้ประสานงานกับนักธุรกิจในท้องถิ่นและขอใช้สถานที่จัดงานในครั้งนี้ กล่าวถึงความร่วมมือของคนในท้องถิ่นจนเป็นงานสร้างสรรค์เพื่อชาวบ้านในครั้งนี้ว่า งานนี้เป็นงานที่มีความร่วมมือทุกภาคส่วนของพี่น้องอำเภอคำเขื่อนแก้วและอำเภอใกล้เคียงที่มาแสดงพลังความรักความสามัคคี มาร่วมทำบุญร่วมกัน เป็นวันดีที่ทุกคนมาช่วยกันสร้างทุ่งปอเทืองขนาดใหญ่ กว่า 10 ไร่ในพื้นที่เกษตรอินทรีย์ของชาวยโสธร และมาร่วมทำบุญผ้าป่าสามัคคีร่วมกัน เป็นความรักความสามัคคี ที่พี่น้องเกษตรกรมารวมตัวกันมากมายกว่า 3,000 คน มาทำกิจกรรมดีๆเพื่อสังคม เพื่อพี่น้องชาวยโสธร

       “ตั้งแต่นี้ต่อไปเราจะมีเรื่องราวดีๆ กิจกรรมดีเพื่อชาวยโสธร เราจะมีพื้นที่เกษตรอินทรีย์เพิ่มขึ้น มีตลาดชุมชนเพื่อเป็นสถานที่จำหน่ายผลผลิตเกษตรอินทรีย์ให้กับพี่น้องเกษตรกรชาวยโสธร ซึ่งเป็นความโชคดีของพี่น้องบ้านเรา ที่มีนักธุรกิจที่เป็นลูกหลานชาวบ้านในท้องถิ่นยโสธรบ้าน ให้ความสำคัญต่อปากท้องพี่น้องเกษตรกร ได้เสียสละทุนทรัพย์ และสถานที่ในการจัดงานในครั้งนี้ เพื่อประโยชน์สูงสุดให้กับพี่น้องเกษตรกรในท้องถิ่นของเรา ผมเองในเป็นในฐานะที่เป็นตัวแทนของชาวบ้าน ไปเป็น สจ.ของยโสธร ก็เห็นความเป็นอยู่และวิถีชีวิตของพี่น้องในท้องถิ่น ยังมีข้อจำกัดและปัญหาอีกมากมายที่ต้องได้รับการแก้ไขและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรื่องการเกษตร ท้องถิ่นเราเป็นต้นแบบของเกษตรอินทรีย์ วันนี้ต้องช่วยกันเต็มในสิ่งที่ขาดหาย และพัฒนาต่อยอดในสิ่งที่มีอยู่ และดีอยู่แล้ว แต่ทั้งหมดต้องได้รับความร่วมมือ ความรักความสามัคคีของคนในท้องถิ่นช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน ซึ่งวันนี้สิ่งดีๆหลายๆอย่างกำลังจะเกิดขึ้นครับ” นายนกล่าว

         พร้อมกันนี้นายชื่น ได้ขอบคุณพี่น้องประชาชน เกษตรกรทุกท่านที่มาร่วมงานกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์เพื่อทุกคนเพื่อเมืองเกษตรอินทรีย์ของคนยโสธร ของประเทศไทย ความสำเร็จของวันนี้คือความสำเร็จของพี่น้องเกษตรกรทุกคน แต่เบื้องหลังความสำเร็จต้องขอขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีที่ให้การสนับสนุนการจัดงานและร่วมกันจัดงานในครั้งนี้ เริ่มจากนายวสันต์ ชัยภูมิ นายก อบต.ลุมพุกเจ้าของพื้นที่ และทุ่มเทแรงกาย แรงใจในการจัดงาน นายสรี สายสีแก้ว(เสี่ยเสรี) นักธุรกิจที่เป็นลูกหลานคนคำเขื่อนแก้ว ที่สนับสนุนงบประมาณ ทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับคณะทำงาน คุณพิชัย พรมมา(เสี่ยมืด)นักธุรกิจที่เป็นลุกหลานคนในท้องถิ่นอีกคนหนึ่ง ที่สนับสนุนงบประมาณจัดงาน เสียสละให้ใช้สถานที่จัดงานและให้ใช้สถานที่เป็นตลาดสินค้าชุมชน นายวิทย์ มหาชน แกนนำกลุ่มปลูกฮัก ยโสธร ที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงการจัดงานและเป็นที่ปรึกษาให้กับเกษตรกรอินทรีย์ของชาวยโสธร รวมถึงแกนนำเกษตรกรทุกท่านพี่น้องเกษตรกรชาวยโสธรทุกท่านและขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีอีกมากมายหลายท่านที่อยู่เบื้อหน้าและเบื้อหลังที่ช่วยสนับสนุนและผลักดันให้งานสำเร็จลุล่วงด้วยดี

         ในงานมีกลุ่มเกษตรกรนำสินค้าเกษตร สินค้าโอทอปในท้องถิ่นมาจำหน่ายในงาน ได้รับความสนใจจากผู้มาร่วมงานอย่างล้นหลามและผู้ใหญ่ใจดีที่มาร่วมงานได้ ขอซื้อสินค้าทุกชิ่นของกลุ่มเกษตรกรและกลุ่มแม่บ้านแจกจ่ายผู้ที่มาร่วมงานทุกคน จนอิ่มอกอิ่มใจ ทั้งผู้ซื้อผู้ขายและผู้ได้รับแจกกันอย่างอบอุ่น และอิ่มบุญกันถ้านหน้า.