ปีนี้ข้าวโพดราคาพุ่งถึง กก.10 บาท เกษตรกรร่วม”ปลูกข้าวโพดหลังนา”กว่า 8.5 หมื่นราย

  •  
  •  
  •  
  •  

กระทรวงเกษตรฯติวเข้มครั้งแรก 5 เสือในพื้นที่ 33 จังหวัด ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ “โครงการสานพลังประชารัฐเพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนา” เผยสิ้นสุดเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2561 มีเกษตรกรร่วมโครงการ 85,042 ราย พื้นที่ 735,525 ไร่ เปิดโอกาสรับสมัครอีกไปจนถึง วันที่ 15 มกราคม 2562 หลังพบว่าปีนี้ราคาข้าวโพดพุ่งขึ้นถึง 10 บาท

           นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “โครงการสานพลังประชารัฐเพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนา” โดยมีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ 33 จังหวัด ที่เข้าร่วมโครงการฯ ณ โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กรุงเทพฯ ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีนโยบายลดพื้นที่การปลูกข้าวนาปรัง โดยปลูกพืชทดแทนที่มีศักยภาพ และสามารถบริหารจัดการด้านการตลาดได้ ภายใต้แนวคิด “การตลาดนำการผลิต” โดยสร้างสมดุลทางการตลาด เพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร เชื่อมโยงการผลิตการตลาดภาครัฐและเอกชน สร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน

         โดยดำเนินการวางแผนการผลิตที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด มีการบริหารสินค้าเกษตรให้เกิดความสมดุล เกษตรกรสามารถลดต้นทุนการผลิตสินค้าเกษตร มีตลาดรองรับแน่นอนผลผลิตไม่ล้นตลาด เกษตรกรมีรายได้และความมั่นคงในอาชีพเกษตรกรมากยิ่งขึ้น ภายใต้โครงการสานพลังประชารัฐเพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนา

           นายกฤษฎา กล่าวอีกว่า ผลการรับสมัครเกษตรกรเข้าร่วมโครงการฯ เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2561 รวมเกษตรกร 85,042 ราย พื้นที่ 735,525 ไร่ คิดเป็น 72.41 % จากการสำรวจความต้องการของเกษตรกร (ผลการสำรวจ : เกษตรกร 116,598 พื้นที่ 1,015,845.25 ไร่) โดยจะรับสมัครไปจนถึง วันที่ 15 มกราคม 2562 เป็นวันสิ้นสุดการปลูก ซึ่งขึ้นอยู่กับความสมัครใจของเกษตรกร และในปีนี้ราคารับซื้อข้าวโพดสูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 8 บาท เป็น 10 บาท แต่ไม่ว่าเกษตรกรจะปลูกพืชอะไร กระทรวงเกษตรฯ ก็จะดูแลอย่างทั่วถึงเช่นเดียวกัน

            ส่วนในปีที่ผ่านมาโครงการฯ ไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควรนั้น กระทรวงเกษตรฯ ได้ประสานความร่วมมือภาคเอกชนเข้าไปแก้ไขปัญหาต่างๆ อาทิ การจัดหาเมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพให้แก่เกษตรกร การรวบรวมผลผลิตและกำหนดจุดรับซื้อ การประกันภัยพืชผลที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ หวังว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าว ช่วยให้การดำเนินงานบรรลุตามเป้าหมายได้

             สำหรับการจัดสัมมนาในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ สร้างความเข้าใจในการประสานความร่วมมือในการขับเคลื่อนการดำเนินงานโครงการฯ และนับเป็นครั้งแรกของการรวมทีม 5 เสือ ในพื้นที่ 33 จังหวัด ประกอบด้วย กรมส่งเสริมการเกษตร กรมชลประทาน กรมพัฒนาที่ดิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จำนวน 450 คน ได้มีโอกาสพบปะพูดคุยและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นระหว่างกัน ถึงแนวทางในการขับเคลื่อนโครงการฯ ให้สำเร็จตามเป้าหมาย.