4 บริษัทยักษ์ใหญ่ภาคเอกชน ขานรับ!! พร้อมรับซื้อข้าวโพดทุกฝัก ภายใต้โครงการสานพลังประชารัฐ กระทรวงเกษตรฯ รับลูก เร่งลงพื้นที่ตรวจรับการบริหารจัดการในพื้นที่กว่า 300 อำเภอ
นายระพีภัทร จันทรศรีวงศ์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะรองโฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงการขับเคลื่อนโครงการสานพลังประชารัฐเพื่อสนับสนุนการปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนา ว่าขณะนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีความพร้อมเดินหน้าเต็มที่ หลังจับมือกับบริษัทเอกชนประกาศจุดรับซื้อในพื้นที่กว่า 1 ล้านไร่ใน 33 จังหวัด อีกทั้ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายกฤษฎา บุญราช) ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดลงพื้นที่ตรวจตราการบริหารจัดการในเรื่องปัจจัยการผลิต (น้ำ,ปุ๋ย,เมล็ดพันธุ์) และจุดรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้มีความโปร่งใส เพื่อป้องกันผู้ไม่หวังดีเข้าแทรกแซง
ปัจจุบันมีบริษัทภายใต้สมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ แจ้งรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกร อย่างน้อยจำนวน 4 แห่ง ได้แก่ 1. บริษัท บีอาร์เอฟ ฟีด (ไทยแลนด์) จำกัด 2. บริษัท ลีพัฒนาอาหารสัตว์ จำกัด 3. บริษัท เบทา โกร จำกัด และ 4. บริษัท คาร์กิลล์มีทส์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นต้น นอกจากนี้ มีเอกชนในพื้นที่รับซื้อ 8 แห่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพ่อค้าในท้องถิ่นที่เป็นคู่ค้าเดิมของสหกรณ์ หรือเป็นผู้รับซื้อรายใหญ่ในพื้นที่ ซึ่งผลการจับคู่กับเอกชนเพื่อรับซื้ออาหารสัตว์พบว่า ส่วนใหญ่มีการจับคู่คู่ค้าเรียบร้อยแล้วและมีบริษัทเอกชนวางแผนเข้ารับซื้อแล้ว
สำหรับบริษัทภายใต้สมาคมการค้าเมล็ดพันธุ์ไทยยินดีสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ราคาพิเศษ ผ่านร้านจำหน่ายปัจจัยการผลิตที่รับบัตรเกษตรสุขใจ (A-Shop) และจะดำเนินการถ่ายทอดเทคโนโลยีการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้กับเกษตรกรและผู้เกี่ยวข้อง ด้วยวิธี Train The Trainer ผ่าน Video Conference เบื้องต้นมีบริษัทจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ แจ้งข้อมูลแล้วอย่างน้อย 4 บริษัท ได้แก่ 1. บริษัท แปซิฟิค เมล็ดพันธุ์ จำกัด 2. บริษัท ชินเจนทา ซีดส์ จำกัด 3. บริษัท เมล็ดพันธุ์ เอเชีย จำกัด และ 4. บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โปรดิ๊วส จำกัด เป็นต้น โดยทุกบริษัทสามารถจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ได้ทุกจังหวัด เกษตรกรสามารถเลือกใช้ได้ตามความชอบ
รองโฆษก กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้มีสหกรณ์จำนวน 274 สหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการ และเป็นจุดรวบรวมผลผลิต โดยเป็นสหกรณ์รวบรวมพร้อมปรับปรุงคุณภาพ 21 สหกรณ์ สหกรณ์เป็นจุดรวบรวมอย่างเดียว 132 สหกรณ์ สหกรณ์ที่พร้อมให้เอกชนเช่าพื้นที่เพื่อเป็นจุดรวบรวม 121 สหกรณ์ ซึ่งสหกรณ์ทั้ง 274 สหกรณ์ได้ส่งรายชื่อให้กับ ธกส. เรียบร้อยแล้วเพื่อประสานในการเป็นร้านจำหน่ายปัจจัยการผลิตที่รับบัตรเกษตรสุขใจ
ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับทุกฝ่ายดำเนินโครงการดังกล่าวให้เกิดสัมฤทธิ์ผล และสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรตามนโยบายตลาดนำการผลิต กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงมีการเตรียมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการสนับสนุนการปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนากับสมาคมการค้าเมล็ดพันธุ์ไทย และสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยในเร็วๆ นี้