มหันตภัยคลื่นเซาะตลิ่ง..หายนะถาวรยิ่งกว่าการพนัน ที่รัฐไม่เลี้ยวแล

โดย…ดลมนัส  กาเจ

            โบราณว่า “ไฟไหม้ 10 ครั้ง ดีกว่าติดการพนัน” บ้างก็ว่า “ไฟไหม้บ้าน 10 ครั้งไม่เท่าเสียการพนันครั้งเดียว” และคงเหมือนกับ น้ำท่วมที่ทำกิน 10 ครั้งไม่เท่าติดการพนัน เพราะไฟไหม้บ้านถึงอย่างไรก็ยังมีที่ดินที่จะปลูกบ้านใหม่ได้  ดุจเดียวกับน้ำท่วมพื้นที่การเกษตรสักกี่ครั้งที่ทำกินก็ยังอยู่ น้ำลดเพาะปลูกใหม่ได้ แต่ติดการพนันขายหมดทั้งที่บ้านและที่ดิน รวมถึงที่ทำกินด้วย

            ยุคใหม่ที่เรามองข้ามคือ “น้ำเซาะตลิ่ง” โดยเฉพาะคลื่นเซาะตลิ่งชายฝั่ง อันนี้ไม่มีใครพูดเปรียบเปรยทั้งที่ร้ายยิ่งกว่าติดการพนัน เพราะมันเอาไปทั้งพืชผลทางการเกษตร และที่ดินไปโดยที่เจ้าของไม่มีโอกาสกลับมาได้คืน ขณะที่การพนันยังมีโอกาส ถึงคราวดวงดีอาจได้เงินกลับมาบ้างเป็นครั้งคราว แต่ที่ดินติดชายฝั่งคลื่นกลืนไปอย่างไร้ร่องรอยและน่าหดหู่ยิ่ง

            ทุกครั้งที่เกิดภัยพิบัติ น้ำท่วมพืชผลทางการเกษตร สัตว์เลี้ยงเสียหายรัฐจัดงบประมาณชดเชยให้ ได้เงินมาฤดูกาลหน้ายังสามารถปลูกใหม่ได้ แต่น้ำเซาะตลิ่งไม่เห็นมีใครชดเชยพืชผลทางการเสียหายไป ที่ดินก็หายไป จนในที่สุดอาจกลายเป็นคนที่ไร้ที่อยู่อาศัยในสังคมนี้

            อย่างที่ ม.4 ต.เกาะสะบ้า อ.เทพา จ.สงขลา ชาวบ้นเสียพืชผลทางการเกษตรโดยเฉพาะมะพร้าว และที่ดินที่คลื่นเซาะตลิ่งหายไปบางปีต้นมะพร้าวล้มถูกคลื่นลากลงไปในทะเลถึง 2 แถว ลองคิดดูการปลูกมะพร้าวช่วงห่างระหว่างต้น 8×8 เมตร 2 แถวลึกเข้ามา 16 เมตร หากแนวยาวของสวนมะพร้าว 50 เมตร เท่ากับที่ดินหายไป 800 ตารางเมตรหรือ 2 งาน

           เหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นปีแล้วปีเล่า ที่เกษตรกรนอนผวาเมื่อถึงฤดูมรสุม และเมื่อเห็นสิ่งเพาะปลูกของตัวเอง และที่ทำกินถูกทะเลกลื่นไป น้ำตาหยดแล้วหยดเล่า เพราะมันเป็นหายนะที่เกิดขึ้น ซึ่งเกษตรกรไม่สามารถเรียกคืนมาได้เลย

[adrotate banner=”3″]

             หลายพื้นที่ของความยาวตลอดชายหาดจาก จ.ประจวบขีรีขันธ์ จรดถึงปลายด้ามขวานของผืนแผ่นสยาม บางแห่งมีการสร้างเขื่อนกั้นคลื่นเซาะตลิ่งแล้ว เป็นช่วงๆ ถึงที่ อ.สิงหนครของ จ.สงขลา แต่พอเข้าเขต อ.จะนะ และเทพา ไร้การดูแลจากหน่วยงาน แม้การสำรวจ ชาวบ้านบอกว่า ไม่เคยเงาเจ้าที่ ที่จะให้เห็นว่า จะยื่นมือช่วยในภาคหน้าอันเร็ววันนี้ (ดูในคลิป)