วอนหารือด่วน!หวั่นขึ้นภาษีบุหรี่ 40% เกษตรกรเดือดร้อนถึง5หมื่นครอบครัว

  •  
  •  
  •  
  •  

ภาคีเครือข่ายชาวไร่ยาสูบฯ ดิ้นขอหารือทุกภาคส่วนของอุตสาหกรรมยาสูบ ทั้งผู้ผลิต ผู้นำเข้า และผู้ค้าบุหรี่ หลังรัฐบาลปรับขึ้นภาษีบุหรี่อีกครั้ง 40% มีผล 1 ตุลาคม 2562 หวังหาทางออกร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน ชี้การที่กระทรวงการครังสั่งให้ ยสท.รับซื้อใบยาเกษตรกรในฤดูกาลผลิต 2561/2562 แต่วันนี้ยังไม่มีความชัดเจน และเป็นการแก้ปัญหาระยะสั้น หวั่นหากไม่หารืออาจทำให้เกษตรกรผู้ปลูกยาสูบกว่า 5 หมื่นครอบครัวเดือดร้อน ระบุต้องคุยกันทุกส่วนตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำ ของอุตสาหกรรมจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด

นายสุธี ชวชาติ ตัวแทนภาคีเครือข่ายชาวไร่ยาสูบแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การที่กระทรวงการคลังที่ช่วยสั่งการให้การยาสูบแห่งประเทศไทย(ยสท.) รับซื้อใบยาสูบเหมือนเดิมในปีนี้  หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ยสท. ประกาศจะไม่รับซื้อใบยาสูบ ซึ่งจะกระทบกับรายได้และปากท้องของชาวไร่ยาสูบกว่า 50,000 ครอบครัวนั้น ทุกวันนี้ยังไม่มีท่าทีชัดเจนที่จะดำเนินการตามที่คลังสั่ง จึงควรมีการประชุมใหญ่ตัวแทนทุกภาคส่วนจากอุตสาหกรรมยาสูบ ยสท. ผู้นำเข้าบุหรี่ ผู้ส่งออกใบยาสูบ ผู้ค้ายาสูบ กระทรวงการคลัง กรมสรรพสามิต เพื่อหารือปัญหาและผลกระทบจากพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 พร้อมทั้งหาทางออกร่วมกันให้เป็นรูปธรรมและยั่งยืนเพื่อเสนอต่อผู้กำหนดนโยบายภาครัฐ

[adrotate banner=”3″]

“ก่อนหน้านี้ ยสท. ได้ประกาศงดรับซื้อใบยาสูบจากเกษตรกรในปีนี้ โดยอ้างเหตุผลเรื่องผลกระทบจาก พ.ร.บ.ฯ โดย ยสท.คาดว่าจะทำให้มีสต็อกใบยาเหลือพอกับยอดขายบุหรี่ที่จะหดตัวลงต่อเนื่องไปอีก การที่กระทรวงการคลังสั่งการให้ ยสท. รับซื้อใบยาฤดูกาล 61/62 นี้ เป็นการแก้ปัญหาระยะสั้น พวกเราชาวไร่ยังกังวลว่าเมื่อรัฐปรับขึ้นภาษีบุหรี่อีกครั้งเป็น 40% ในวันที่ 1 ต.ค. 2562 จะเกิดปัญหาซ้ำรอยอีก จึงเห็นว่าจำเป็นจะต้องให้ทุกภาคส่วนในอุตสาหกรรมยาสูบมาร่วมหารือกันถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่างรอบด้านให้เห็นภาพรวมปัญหาของทั้งอุตสาหกรรม ที่จะมากระทบความอยู่รอดของทั้งอุตสาหกรรมโดยเฉพาะประเด็นการรับซื้อใบยาสูบอีก หากไม่เร่งหาทางออกร่วมกันอย่างยั่งยืนและเป็นรูปธรรม” นายสุธีกล่าว

ตัวแทนภาคีเครือข่ายชาวไร่ยาสูบฯระบุอีกว่า ที่ผ่านมารัฐบอกให้อุตสาหกรรมปรับตัวแต่ให้เวลาเพียงสองปี ตอนนี้ผ่านไปหนึ่งปีแล้วอุตสาหกรรมยังคงอลวนอลหม่านกันอยู่ โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกร แรงงาน ร้านค้าต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมยาสูบ ตรงนี้จึงอยากให้ทุกฝ่ายพูดคุยกัน ภาคีฯ ในนามตัวแทนชาวไร่ยาสูบทั่วประเทศกว่า 50,000 ครอบครัวใน 20 จังหวัด ขออาสาเป็นตัวกลางให้ทุกฝ่ายมาร่วมประชุมกัน หากทุกฝ่ายไม่หันหน้าเข้าหากัน ผู้ที่จะเดือดร้อนมากที่สุดก็คือเกษตรกร ซึ่งคิดว่ารัฐบาลคงไม่อยากให้เกิดผลเช่นนั้นในช่วงเลือกตั้ง