ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า นางจำนง พานิช บ้านเลขที่ 136 หมู่ 3 บ้านด่านโลด เทศบาลตำบลควนเสาธง อ.ตะโหมด จ.พัทลุง เปิดเผยว่า ได้ใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงมาบริหารจัดการครัวเรือน ด้วยการปลูกทุกอย่างที่บริโภคได้ นอกจากนั้นยังมีปศุสัตว์ คือการเลี้ยงวัว และประมง คือการทำบ่อปลา มีครบทุกอย่างโดยไม่ต้องซื้อ
ทั้งนี้ พ่อค้าแม่ค้ายังนำไปแปรรูปผลิตเป็นน้ำปั่นหม่อนเบอร์รี่ ซึ่งเป็นที่นิยมของผู้บริโภคมาก โดยหม่อนเบอร์รี่ เก็บเกี่ยวได้ทุกวัน สลับสับเปลี่ยนกันแต่ละต้น บางวันเก็บได้วันละ 5-6 กก. รวมแล้วจะให้ผลผลิตประมาณ 15 กก./ปี/ต้น
นางจำนง บอกว่า รวมแล้วมีรายได้ 15,000 บาท/ปี แต่หากปลูกเป็นไร่ ประมาณจำนวน 26 ต้น/ไร่ จะให้ผลผลิตโดยเฉลี่ยประมาณ 390 กก. คิดเป็นเงินถึง 39,000 บาท/ไร่/ปี และสำหรับหม่อนเบอร์รี่ สามารถนำจิ้มพริกเกลือรับประทาน หรือในส่วนของยอดอ่อนนำมาแกงเลี้ยงและเป็นผักจิ้มก็ได้ ส่วนใบแก่ก็นำมาตากแห้งแปรรูปทำเป็นน้ำชาไว้ดื่ม ซึ่งจะมีคุณค่าทางอาหารมากมาย
“ตอนนี้ทางบ้านมีการชำเพาะเป็นต้นขาย ต้นละ 20 บาท โดยจะมีผู้ซื้อไปปลูกเป็นแปลงขนาดใหญ่ แต่ก็ยังไม่ปรากฎให้เห็นในพื้นที่ และหากปลูกเป็นแปลงใหญ่ก็สร้างรายได้ที่ดีกว่ายางยางพาราแน่นอน”นางจำนงกล่าว
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ : https://www.prachachat.net/local-economy/news-165937