“หม่อนเบอร์รี่”พืชสร้างรายได้เมืองพัทลุง

  •  
  •  
  •  
  •  

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า นางจำนง พานิช บ้านเลขที่ 136 หมู่ 3 บ้านด่านโลด เทศบาลตำบลควนเสาธง อ.ตะโหมด จ.พัทลุง เปิดเผยว่า ได้ใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงมาบริหารจัดการครัวเรือน ด้วยการปลูกทุกอย่างที่บริโภคได้ นอกจากนั้นยังมีปศุสัตว์ คือการเลี้ยงวัว และประมง คือการทำบ่อปลา มีครบทุกอย่างโดยไม่ต้องซื้อ

“การไม่ต้องซื้อเท่ากับมีเงินเหลือเก็บไว้ใช้อย่างอื่น และหากทุกครัวเรือนดำเนินการรูปแบบนี้ได้ จะไม่ลำบาก และจะมีความเป็นอยู่ที่ดีอีกด้วย ระการสำคัญที่สุดขณะนี้คือการปลูกต้นหม่อนเบอร์รี่ โดย 15 ปีที่ผ่านมาปลูกเริ่มแรกไว้หน้าบ้านประมาณประดับความสวยงาม แซมตามผลไม้ต่าง ๆ เช่น มะม่วง เป็นต้น และปลูกแซมต่ออีกประมาณ 50 ต้น ระยะห่างกันประมาณ 2 เมตร/ต้น นอกจากไว้บริโภคเองยังขายได้ดีอีกด้วย โดยจะมีแม่ค้าประจำมารับถึงที่ โดยราคาขายส่ง 100 บาท / กก. แต่ราคาค้าปลีกในท้องตลาด ปราคาระมาณ 200 บาท / กก.”

ทั้งนี้ พ่อค้าแม่ค้ายังนำไปแปรรูปผลิตเป็นน้ำปั่นหม่อนเบอร์รี่ ซึ่งเป็นที่นิยมของผู้บริโภคมาก โดยหม่อนเบอร์รี่ เก็บเกี่ยวได้ทุกวัน สลับสับเปลี่ยนกันแต่ละต้น บางวันเก็บได้วันละ 5-6 กก. รวมแล้วจะให้ผลผลิตประมาณ 15 กก./ปี/ต้น

นางจำนง บอกว่า รวมแล้วมีรายได้ 15,000 บาท/ปี แต่หากปลูกเป็นไร่ ประมาณจำนวน 26 ต้น/ไร่ จะให้ผลผลิตโดยเฉลี่ยประมาณ 390 กก. คิดเป็นเงินถึง 39,000 บาท/ไร่/ปี และสำหรับหม่อนเบอร์รี่ สามารถนำจิ้มพริกเกลือรับประทาน หรือในส่วนของยอดอ่อนนำมาแกงเลี้ยงและเป็นผักจิ้มก็ได้ ส่วนใบแก่ก็นำมาตากแห้งแปรรูปทำเป็นน้ำชาไว้ดื่ม ซึ่งจะมีคุณค่าทางอาหารมากมาย

“ตอนนี้ทางบ้านมีการชำเพาะเป็นต้นขาย ต้นละ 20 บาท โดยจะมีผู้ซื้อไปปลูกเป็นแปลงขนาดใหญ่ แต่ก็ยังไม่ปรากฎให้เห็นในพื้นที่ และหากปลูกเป็นแปลงใหญ่ก็สร้างรายได้ที่ดีกว่ายางยางพาราแน่นอน”นางจำนงกล่าว

ที่มา  : ประชาชาติธุรกิจ : https://www.prachachat.net/local-economy/news-165937