กรมวิชาการเกษตร เปิดตัว “เห็ดภูฏานลูกผสมสายพันธุ์ใหม่ กวก.สทช.1” เห็ดยอดนิยมเพาะมากที่สุ ดในประเทศไทย ผลงานวิจัยและพัฒนาของสำนักวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ กรมวิชาการเกษตร เพื่อเพิ่มผลผลิตและคุณภาพตามต้องการของตลาด รสชาติดีมีคุณค่างทางโภชนาการสูง ทนทานต่อสภาพแวดล้อมได้ดี เป็นการเพิ่มทางเลือกใหม่ให้เกษตรกร
นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า สำนักวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ กรมวิชาการเกษตร ได้วิจัยและพัฒนาเห็ดภูฏานลู กผสมพันธุ์ใหม่โดยมุ่งเน้ นการเพิ่มผลผลิตและปรับปรุงคุ ณภาพของเห็ด ให้มีคุณสมบัติทนทานต่ อสภาพแวดล้อมที่เปลี่ ยนแปลงไปทำให้สามารถปลูกได้ ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มี สภาพอากาศที่ท้าทายอีกทั้งยังมี รสชาติที่ดี และมีคุณค่าทางโภชนาการสูง เป็นเห็ดที่เหมาะกับการบริ โภคและสามารถนำไปใช้ในอุ ตสาหกรรมอาหารได้หลากหลายรูปแบบ จนได้เห็ด“เห็ดภูฏานลูกผสมพันธุ์ กวก. สทช.1”ผ่านการรับรองเป็นพันธุ์ แนะนำเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2567
รพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์
ลักษณะเด่นของ“เห็ดภูฏานลู กผสมพันธุ์ กวก. สทช.1” คือสามารถให้ผลผลิตเฉลี่ย 152.68 กรัมต่อถุงอาหารเพาะ (800 กรัม) ต่อรอบการผลิต 2 เดือน ซึ่งสูงกว่าสายพันธุ์เห็ดภูฏาน- 3 เดิมที่ให้ผลผลิตเฉลี่ย 127.88 กรัมต่อถุงอาหารเพาะ เพิ่มขึ้น 19.39 เปอร์เซ็นต์ ดอกเห็ดมีสีเทาออกดอกเป็นกลุ่ม โดยแต่ละช่อมีจำนวนดอก 2-13 ดอก ขนาดของดอกเห็ดตรงตามมาตรฐานสิ นค้าเกษตรสำหรับเห็ดสกุลนางรม (มกษ.1514–2555) โดยขนาดดอกเห็ดแบ่งเป็นรหัสขนาด 1 ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่า 7 เซนติเมตร และรหัสขนาด 2 ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 3.60 – 7.00 เซนติเมตร
นางสาวรัชฎาภรณ์ ทองเหม นักวิชาการเกษตรชำนาญการ สำนักวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ กล่าวว่า เห็ดภูฏานเป็นเห็ดเศรษฐกิจที่ เกษตรกรไทยนิยมเพาะปลูก เนื่องจากสามารถเพาะได้ในทุกภู มิภาคทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเห็ดภูฏานจะเป็นเห็ดที่ เพาะปลูกอย่างแพร่หลาย แต่การผลิตเพื่อการค้ายังคงมีปั ญหาด้านคุณภาพของสายพันธุ์ โดยเฉพาะปัญหาความสม่ำ เสมอของผลผลิตและคุณภาพดอกเห็ด ซึ่งส่งผลให้เกษตรกรได้รั บผลตอบแทนจากการลงทุนที่ต่ำ ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน
ดังนั้น เกษตรกรจึงมีความต้องการสายพั นธุ์ใหม่ที่มีศักยภาพในการให้ ผลผลิตสูง สามารถเพาะเลี้ยงได้ง่ ายในสภาพอากาศปัจจุบัน และมีลักษณะดอกที่หลากหลาย เพื่อเพิ่มช่องทางในการตลาด ดังนั้นเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่ าว สำนักวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีชี วภาพจึงได้ดำเนินการปรับปรุงพั นธุ์เห็ดภูฏานเพื่อพัฒนาสายพั นธุ์ใหม่ที่มีคุณสมบัติ ตามความต้องการของเกษตรกรทำให้ สามารถพัฒนาเห็ดภูฏานลู กผสมสายพันธุ์ใหม่ที่มีศั กยภาพด้านคุณภาพและปริมาณผลผลิ ตที่สูงขึ้น จนได้“เห็ดภูฏานลูกผสมพันธุ์ กวก. สทช.1”
“เห็ดภูฏานลูกผสมพันธุ์ กวก. สทช.1 สามารถเพาะได้ในทุกภูมิ ภาคของประเทศ โดยในโรงเรือนบ่มเส้นใย ควรรักษาอุณหภูมิให้อยู่ในช่วง 25–30 องศาเซลเซียส ส่วนในโรงเรือนเปิดดอก ควรมีอุณหภูมิอยู่ที่ 25–32 องศาเซลเซียสรักษาความชื้นสัมพั ทธ์ไว้ที่ 70–90 เปอร์เซ็นต์ ต้องการแสงน้อยในการเพาะ และไม่ควรเพาะเห็ดใกล้แหล่งที่ มีการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ หรือใกล้โรงเรือนเพาะเห็ดที่มี ศัตรูเห็ด เช่นแบคทีเรีย และไร ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการเพาะเห็ด “เห็ดภูฏานลูกผสมพันธุ์ กวก. สทช.1” จะช่วยเสริมสร้างความมั่ นคงในอาชีพของเกษตรกร
อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมการพั ฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น และเป็นแหล่งรายได้ใหม่ให้แก่ เกษตรกรไทย ขณะนี้ศูนย์รวบรวมเชื้อพันธุ์ เห็ดแห่งประเทศไทย กรมวิชาการเกษตร มีการผลิตและจำหน่ายเชื้อพันธุ์ เห็ดภูฏานลูกผสมพันธุ์ กวก.สทช.1 ในรูปแบบแม่เชื้อบริสุทธิ์อยู่ ที่ปีละ 500 ขวด สำหรับท่านใดที่สนใจสามารถติดต่ อสอบถามเชื้อพันธุ์เห็ดได้ที่ สำนักวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ โทรศัพท์ 0-2579-0147 และเมื่อได้รับเชื้อเห็ดแล้ วควรใช้ภายใน 15 วัน พร้อมกับใช้เชื้อเห็ดแต่ ละขวดให้หมดภายในครั้งเดียว หากยังไม่ใช้ต้องเก็บขวดเชื้ อไว้ในที่สะอาด ไม่มีฝุ่นละอองและห้ามถู กแสงแดดโดยตรงอย่างเด็ดขาด” นางสาวรัชฎาภรณ์ กล่าว