โดย…ดร.นิพนธ์ เอี่ยมสุภาษิต

พืชอาหารหลายชนิดสามารถเจริญเติบโตได้ภายใต้สภาพอากาศบางอย่างเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าความร้อน หรือปริมาณน้ำฝนที่น้อยเกินไปหรือมากเกินไปอาจทำให้ผลผลิตทั้งหมดเสียหายได้ จนถึงปี พ.ศ. 2567 น้ำท่วมและคลื่นความร้อนที่ทำลายสถิติ ได้ทำลายล้างพื้นที่บางส่วนของสหรัฐอเมริกา ยุโรป เอเชีย และบราซิล น่าแปลกที่ภัยแล้งกำลังกลายเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้น ส่งผลให้ผลผลิตพืชลดลงและราคาอาหารทั่วโลกสูงขึ้น

วิธีแก้ปัญหาที่เป็นไปได้ คือ การดัดแปลงพันธุกรรมพืชเพื่อให้ทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มากขึ้นเรื่อย ๆ อาหารที่มาจากการดัดแปลงพันธุกรรมหรือที่เรียกว่ามาจากสิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรม ซึ่งเป็นประเด็นถกเถียงมานานแล้ว เนื่องจากผู้บริโภคจำนวนมากกลัวว่าอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของมนุษย์ แต่การศึกษาวิจัยมากกว่า 100 ชิ้นที่ศึกษาโดยทุกคนตั้งแต่สมาคมการแพทย์อเมริกันไปจนถึงองค์การอนามัยโลก พบว่า ความกลัวดังกล่าวไม่มีมูลความจริง และอาหารดัดแปลงพันธุกรรมมีความปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค

พืชดัดแปลงพันธุกรรมสามารถออกแบบให้ทนทานต่อความแห้งแล้งได้ดีกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับพืชทั่วไป โดยทำให้พืชมีความแข็งแรงเพียงพอที่จะเจริญเติบโตโดยใช้น้ำเพียงเล็กน้อย นอกจากนี้ยังสามารถออกแบบให้ต้านทานแมลงศัตรูและโรคพืชต่าง ๆ ได้อีกด้วย ซึ่งสามารถลดความจำเป็นในการใช้สารป้องกันกำจัดแมลงศัตรู ที่เป็นพิษและทำลายสิ่งแวดล้อมได้อย่างมาก

ไม่ว่าเราจะดำเนินการต่ออย่างไร ก็ชัดเจนว่าเราต้องเรียนรู้ที่จะบิน เนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทำให้เกิดภัยคุกคามที่เร่งด่วนมากขึ้น ทั้งต่อสุขภาพของมนุษย์และสุขภาพของแหล่งอาหารทั่วโลก

แม้แต่ Karen Massel จากมหาวิทยาลัยควีนส์แลนด์ (University of Queensland) ผู้สนับสนุนการเพิ่มพื้นที่ปลูกและใช้ประโยชน์จากพืชอาหารดัดแปลงพันธุกรรม ยอมรับว่า “มีข้อกังวล” รวมถึง “ผลกระทบที่ไม่ได้ตั้งใจต่อระบบนิเวศ” โดยเสริมว่า “การพัฒนาอาหารในอนาคต จะต้องนำไปสู่ ความยั่งยืน ความยุติธรรมทางสังคม และความเข้มงวดทางวิทยาศาสตร์”

ครับ หลักฐานปรากฎชัดว่าพืชดัดแปลงพันธุกรรมมีความยืดหยุ่นต่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://sustainablebrands.com/read/supply-chain/gmos-increase-food-security-changing-climate