โดย…ดร.นิพนธ์ เอี่ยมสุภาษิต

William Ruto ประธานาธิบดีเคนยา กล่าวว่า “แม้จะทานอาหารที่มาจากพืชดัดแปลงพันธุกรรมก็ตาม ก็ไม่ทำให้หน้าอกใหญ่ขึ้น รวมทั้ง ไม่มีผู้หญิงคนไหนไว้หนวดเคราเพราะการบริโภคสิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรม” ซึ่งเป็นคำกล่าวที่แสดงถึงตำนานและความกลัวเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรม ที่อาจเป็นประเด็นถกเถียงกัน

สมาคมชาวนาเคนยา ที่มีทนายความ Kevin Oriri เป็นตัวแทน โดยโต้แย้งว่า การยกเลิกคำสั่งห้ามจะส่งผลร้ายแรงต่อผลผลิตและความยั่งยืนของเกษตรกร รวมถึงสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานของพวกเขา และสิทธิในการดำรงชีวิตของประชาชนทั่วไป

ปัจจุบันฝ้ายบีทียังคงอยู่ระหว่างการทดลองและอยู่ระหว่างการเพาะปลูกโดยเกษตรกรที่ได้รับคัดเลือกทั่วเคนยา และ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2564 เคนยาอนุญาตมันสำปะหลังดัดแปลงพันธุกรรมที่ทนทานต่อโรคใบขีดสีน้ำตาลมันสำปะหลัง (Cassava Brown Streak Disease) หลังจากการประเมินความปลอดภัยอย่างครอบคลุม ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามันสำปะหลังดัดแปลงพันธุกรรมดังกล่าวไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพของมนุษย์และสัตว์ หรือต่อสิ่งแวดล้อม

มันสำปะหลังดัดแปลงพันธุกรรมได้รับการพัฒนาโดย องค์การวิจัยการเกษตรและปศุสัตว์แห่งเคนยา (Kenya Agricultural and Livestock Research Organisation – KALRO) และได้รับการประเมินความปลอดภัยเป็นระยะเวลา 5 ปีในการทดลองภาคสนามที่ดำเนินการในเมือง Mtwapa (Kilifi), Kandara (Muranga) และ Alupe (Busia)

Oriri กล่าวว่า เดิมพันนั้นสูงมากเนื่องจากเกี่ยวข้องกับสิทธิของชาวเคนยาต่อสุขภาพ ชีวิต และแม้แต่ความอยู่รอดของคนรุ่นอนาคต ในทางกลับกัน บริษัทอาหารข้ามชาติได้ลงทุนอย่างมากในตลาดเคนยา

ครับ ประเทศไทยน่าจะมีผู้นำเช่นนี้บ้าง

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.standardmedia.co.ke/health/family-wellness/article/2001485092/food-security-kenyas-long-debate-on-gmos-far-from-over#google_vignette