การปลูกพืชแก้ไขยีนในยุโรปยังต้องรอเวลาอีกนาน

  •  
  •  
  •  
  •  

โดย…ดร.นิพนธุ์ เอี่ยมสุภาษิต

คณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นหน่วยงานบริหารของสหภาพยุโรป ได้ประกาศเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า จะผ่อนปรนกฎเกณฑ์สำหรับพืชแก้ไขยีน แต่สิ่งที่น่าสนใจ คือ เหตุใดสหภาพยุโรป ซึ่งโดยทั่วไปมักจะรับฟังข้อโต้แย้งของนักรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อม ที่ต่อต้านนวัตกรรมทางการเกษตรอย่างเข้มแข็ง จึงประกาศการตัดสินใจเช่นนี้ ที่จะเป็นเหตุให้เกิดการถกเถียง

แต่คาดหวังว่าสหภาพยุโรปจะมีพันธุ์พืชที่มาจากการแก้ไขยีนเพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกันก็เพิ่มความยืดหยุ่นของพืชต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แมลงศัตรู และโรคต่าง ๆ รวมทั้งมีความต้องการใช้ปุ๋ยน้อยลง นั่นเป็นการคาดหวังที่แม่นยำ พอ ๆ กันกับ เมื่อหลายปีก่อน เมื่อสหรัฐอเมริกา แคนาดา หรือบราซิลที่ได้เริ่มใช้เทคโนโลยีนี้อย่างมีประสิทธิภาพ

มีข่าวดีและข่าวร้าย ข่าวร้าย คือ แม้จะมีการประกาศอนุญาตให้ปลูกพืชแก้ไขยีน แต่ก็ยังห่างไกลจากการเข้าถึงในยุโรปจริง ๆ เนื่องจากผู้ผลิตและผู้ออกกฎหมายจะต้องข้ามขั้นตอนอันมากมาย และ สถานการณ์ที่เป็นจริงที่สุดสำหรับพืชแก้ไขยีนเชิงพาณิชย์ คือ ปี พ.ศ. 2573 ข่าวดี คือ สหภาพยุโรปจะยกเลิกข้อจำกัดในการแก้ไขยีน หมายความว่า จะมีความขัดแย้งน้อยลงในนโยบายการค้าโลกที่อาจขัดขวางไม่ให้ยุโรปซื้อขายอาหารกับโลก รวมถึงประเทศที่ยุโรปเรียกเก็บภาษีศุลกากร เช่นสหรัฐอเมริกา

ครับ อย่างไรก็ยังเป็นสิ่งที่ดีแม้ว่าจะต้องรอจนถึงปี พ.ศ. 2573

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.realclearmarkets.com/articles/2023/08/21/europes_slow_embrace_of_genetic-food_engineering_reality_974132.html