โดย…ดร.นิพนธ์ เอี่ยมสุภาษิต
ในช่วงปลายปี พ.ศ. 2563 เม็กซิโกได้ประกาศความตั้งใจที่จะแบนข้าวโพดดัดแปลงพันธุกรรม ทำให้สหรัฐอเมริกาขู่ว่า เป็นการท้าทายภายใต้ข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯ-เม็กซิโก-แคนาดา (United States-Mexico-Canada Agreement – USMCA) ดังนั้นสถานการณ์ที่ทำให้ชะงักงันระหว่าง 2 ประเทศจึงเริ่มต้นขึ้นตลอดการปกครองของ Biden
รัฐบาลเม็กซิโกหนุนหลังกฤษฎีกาโดยอ้างว่าข้าวโพดดัดแปลงพันธุกรรม ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพของผู้บริโภคชาวเม็กซิกัน ในขณะที่สหรัฐฯ ยืนยันว่าเม็กซิโกไม่มีหลักฐานรองรับการกล่าวอ้างดังกล่าว และการห้ามนำเข้าข้าวโพดจะทำให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจจำนวนมาก ขณะเดียวกันก็ขัดขวางความก้าวหน้าที่จะนำไปสู่เป้าหมายความมั่นคงทางอาหารและสภาพภูมิอากาศ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าความกลัวเรื่องความปลอดภัยของข้าวโพดดัดแปลงพันธุกรรม จะเป็นตัวกระตุ้นที่แท้จริงและเป็นปัญหาสำหรับการเคลื่อนไหวของเม็กซิโก แต่ก็ไม่ได้เป็นเพียงสิ่งเดียวเท่านั้น ข้าวโพดเป็นที่มาของความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกาและเม็กซิโกตั้งแต่การบังคับใช้ข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (North American Free Trade Agreement – NAFTA) ในปี พ.ศ. 2537 และแทนที่ด้วย USMCA ในปี พ.ศ. 2563 แหล่งที่มาของความขัดแย้งนี้ มาจากเงินอุดหนุนทางการเกษตรของสหรัฐฯ ที่ส่งผลกระทบร้ายแรงต่ออุตสาหกรรมข้าวโพดในประเทศเม็กซิโก
การตอบสนองล่าสุดของเม็กซิโกดูเหมือนจะค่อนข้างเป็นการชี้โทษที่ข้าวโพดดัดแปลงพันธุกรรมอย่างไม่ถูกต้อง โดยใช้ประโยชน์จากความสงสัยที่เป็นเหตุผลเชิงวิบัตินิยมที่แพร่หลายของเทคโนโลยีชีวภาพ ซึ่งมีสัญญาณหลายอย่าง ที่แสดงถึงวัตถุประสงค์หลักของการแบน คือ การเพิ่มอำนาจอธิปไตยทางอาหารของเม็กซิโก โดยลดการคุกคามจากการแข่งขันของสหรัฐฯ
ครับ มีประเด็นอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะด้านการค้า นอกเหนือจากความปลอดภัย
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://globalaffairs.org/commentary-and-analysis/blogs/mexicos-gm-corn-ban-about-more-biotech