โดย…ดร.นิพนธ์ เอี่ยมสุภาษิต

การค้นพบมะเขือเทศสีม่วงดัดแปลงพันธุกรรมที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ Dr. Cathie Martin นักชีววิทยาด้านพืชที่ John Innes Center ในเมือง Norwich สหราชอาณาจักรกล่าวในระหว่างการสัมมนาผ่านเว็บของ AfS Live ครั้งล่าสุดว่า “แรงจูงใจในเรื่องนี้เริ่มมาจากความหลงใหลในสีสัน โดยงานวิจัยก่อนหน้านี้ต้องการที่จะทำความเข้าใจว่าพืชสร้างและควบคุมสีของดอกได้อย่างไร”

Martin เริ่มสำรวจ anthocyanins ซึ่งเป็นสารสีที่ทำให้พืชมีสีแดง ม่วง และน้ำเงิน และกล่าวว่า “ฉันเห็นว่าสีม่วงดูจะทำให้สุขภาพดีขึ้น” และ “ข้อสังเกตนี้ทำให้เราระบุยีนหลักที่สังเคราะห์และควบคุมการผลิต สารanthocyanins ในพืช โดยใช้ Antirrhinum majus (ลิ้นมังกร) เป็นพืชต้นแบบจำลองทางพันธุกรรม ”

เม็ดสีสีม่วงเป็นผลมาจากการถ่ายฝากยีนที่มาจากต้นลิ้นมังกรซึ่งอธิบายเพิ่มเติมโดยNathan Pumplinประธาน Norfolk Healthy Produce ที่เป็นบริษัทย่อยของ Norfolk Plant Science ซึ่งเป็นบริษัทที่Martin ร่วมก่อตั้งเพื่อนำมะเขือเทศสีม่วง ออกสู่ตลาด และเป็นบริษัทแรกที่ส่งเสริมพืชดัดแปลงพันธุกรรมในสหราชอาณาจักร

Pumplin กล่าวว่า“ต้นลิ้นมังกรนี้กินได้” และ “การถ่ายฝากยีนเม็ดสีสีม่วงให้กับมะเขือเทศทำให้มะเขือเทศสะสมanthocyaninsในผลทำให้ผลมะเขือเทศเปลี่ยนเป็นสีม่วง”

มะเขือเทศสีม่วงมีสาร   anthocyaninsในระดับสูง ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีศักยภาพในการช่วยป้องกันโรคหัวใจและต่อสู้กับโรคมะเร็ง

Pumplin กล่าวเสริมว่า สาร anthocyaninsยังช่วยชะลอกระบวนการเน่าของผลและเพิ่มอายุการเก็บรักษาได้เป็น2 เท่า นั่นก็หมายความว่า เราสามารถลดปริมาณเศษอาหารลงได้ ซึ่งจะสร้างผลกระทบอย่างมากต่อการให้อาหารแก่โลก และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการเกษตร”

คุณสมบัติต้านการอักเสบเป็นอีกประโยชน์หนึ่งของผลไม้ที่มีสีม่วง จากการศึกษาเรื่องการให้อาหารกับหนูทดลอง มาร์ตินและทีมงานพบว่ามะเขือเทศสีม่วงสามารถเพิ่มอายุขัยของหนูที่เป็นมะเร็งได้ร้อยละ 30

Martin กล่าวอีกว่า“ตอนแรกฉันไม่รู้ว่าอายุขัยที่ยืนยาวขึ้นร้อยละ 30 จะเป็นเรื่องใหญ่” “หลังจากอ่านการศึกษาอื่นๆ เกี่ยวกับโภชนาการในเชิงลึกแล้วพบว่าตัวเลขนี้น่าเหลือเชื่อ เรายังไม่ได้ทดสอบผลกระทบของมะเขือเทศสีม่วงในมนุษย์โดยเฉพาะ อย่างไรก็ตาม anthocyanins ได้รับการศึกษาอย่างกว้างขวางและแสดงให้เห็นว่าสามารถป้องกันโรคเรื้อรังที่เกี่ยวข้องกับอาหารในมนุษย์ได้หลายรูปแบบ เราจึงมองโลกในแง่ดีว่ามะเขือเทศสีม่วงจะได้ผลเช่นเดียวกัน”

Eric Ward ซีอีโอร่วมของ Agbiome  ผู้ร่วมอภิปรายในประเด็นกฎระเบียบและศักยภาพทางการตลาดของมะเขือเทศสีม่วง กล่าวว่าเขาไม่สามารถระงับความตื่นเต้นเกี่ยวกับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ที่รอการอนุมัติได้ และ เพิ่มเติมอีกว่า “ฉันต้องการที่จะช่วยให้ผู้คนเห็นคุณค่าของเทคโนโลยีชีวภาพสมัยใหม่ และมะเขือเทศสีม่วงเป็นผลิตภัณฑ์ที่สมบูรณ์แบบที่จะทำให้ผู้บริโภครู้สึกตื่นเต้นอย่างมากเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรม”

เขา ย้ำว่า “เราหวังว่าผู้บริโภคจะสามารถเข้าถึงมะเขือเทศไม่ว่าจะเป็นน้ำมะเขือเทศ หรือซื้อผลมะเขือเทศสดที่ร้านขายของชำ นอกจากนี้เรายังหวังว่าจะมีเมล็ดพันธุ์ที่พร้อมให้เกษตรกรสามารถปลูกได้เช่นเดียวกับพืชพื้นถิ่นทั่วไป”

Pumplin   กล่าวว่า    บ่อยครั้งที่มีคำถามว่าทำไมถึงต้องเป็นมะเขือเทศสีม่วงเมื่อผู้คนสามารถกิน   blackberries(ผลไม้สีดำ) ได้มากขึ้นเพื่อเพิ่มปริมาณanthocyanin คำตอบคือ

“คุณจะต้องกินblackberriesในปริมาณ 70 กรัมเพื่อให้ได้ปริมาณanthocyaninที่พบในมะเขือเทศดัดแปลงพันธุกรรมที่มีสีม่วงเพียง2 ผล” และ “จากผลสำรวจแสดงให้เห็นว่ามะเขือเทศเป็นผักที่บริโภคมากที่สุดในอเมริการองจากมันฝรั่ง แทนที่จะขอให้ผู้บริโภคกินผักที่พวกเขาชื่นชอบให้น้อยลง ทำไมไม่ให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกสำหรับโภชนาการเพิ่มเติม”

มะเขือเทศดัดแปลงพันธุกรรมที่มีสีม่วงนี้กำลังรอการอนุญาตด้านกฎระเบียบเพื่อการปลดปล่อยโดยกระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกา หากได้รับการอนุญาตเพื่อการขายเชิงพาณิชย์ จะทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกในผลิตผลที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง

ครับ คาดว่าอีกไม่นานผู้บริโภคสามารถหาซื้อมะเขือเทศสีม่วงได้ทั่วไปในสหรัฐอเมริกา

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://allianceforscience.cornell.edu/blog/2022/03/the-power-of-purple-gmo-tomato-could-help-fight-cancer