โดย…ดร.นิพนธ์ เอี่ยมสุภาษิต

      ในขณะที่เกษตรกรซึ่งเป็นผู้ใช้ประโยชน์จากที่ดินมาโดยตลอด ต้องเผชิญกับราคาผลผลิตที่ลดลงค่าแรงที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ40 และราคาปัจจัยการผลิตทางการเกษตรที่เพิ่มขึ้นร้อยละ15 มาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมา ทำให้รายได้ของเกษตรกรลดลง ที่เป็นผลมาจากการแบกรับต้นทุน รวมถึงความเสี่ยงในการที่จะต้องเปลี่ยนไปใช้ผลิตภัณฑ์และแนวทางปฏิบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่จากการที่บริษัทที่รับซื้อผลผลิตได้เสนอราคาเพิ่มขึ้นจากราคาเดิม ทำให้เกษตรกรเริ่มคำนวนเห็นความแตกต่างที่พอจะครอบคลุมความเสี่ยงดังกล่าว

      แต่ก็มีคำถามว่า จะมีเทคโนโลยีใด ที่จะเพิ่มความสามารถของเกษตรกรในการผลิตให้ได้ในราคาที่เสนอโดยบริษัทผู้รับซื้ออย่างมีกำไร

      ที่ผ่านมา เกษตรกรได้ใช้ประโยชน์จากข้อมูลจากดาวเทียมเซ็นเซอร์ภาคพื้นดินโดรนการถ่ายภาพขั้นสูง AI (artificial intelligence – ปัญญาประดิษฐ์) และแหล่งข้อมูลอื่น ๆ มาเป็นเวลาหลายปีเพื่อใช้ในการตัดสินใจอย่างชาญฉลาดเกี่ยวกับแนวทางการทำการเพาะปลูก แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ความก้าวหน้าในการถ่ายภาพและแบบจำลอง AI ได้เพิ่มระดับความเข้าใจใหม่ทั้งหมด

      Aigen  ซึ่งเป็น บริษัทสตาร์ทอัพ เปิดใหม่ที่จำหน่าย โดรนที่ใช้ในการกำจัดวัชพืช Abundant Robotics (หุ่นยนต์ที่ใช้ในการเก็บผลเเอปเปิ้ลเเบบอัตโนมัติ) และ Harvest Croo (เครื่องเก็บเกี่ยวสตรอเบอร์รี) ได้เรียนรู้วิธีการที่จะระบุผลไม้สุกและเก็บออกจากต้นโดยไม่ทำให้เกิดความเสียหาย ซึ่งในขณะที่เกษตรกรต้องเผชิญกับแรงงานและต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นหุ่นยนต์จะเป็นกุญแจสำคัญสำหรับเกษตรกรในการทำการเกษตรแบบแม่นยำให้ได้กำไร

      ครับ สำหรับเกษตรกรบ้านเราที่จัดอยู่ในกลุ่มเกษตรยากจนเป็นส่วนใหญ่ คงยากที่จะเข้าถึงเทคโนโลยีเหล่านี้ ขนาดแนวทางปฎิบัติแบบเกษตรดีที่เหมาะสม (GAP) ยังทำกันน้อยมาก

     อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://news.crunchbase.com/news/how-tech-is-unlocking-the-ability-for-farmers-to-profit-while-going-green/