โดย…ดร.นิพนธ์ เอี่ยมสุภาษิต

      ฟิลิปปินส์ได้รับได้รับความเสียหายอย่างมากจากหนอนเจาะผลและต้น (eggplant fruit and shoot borer – EFSB) ซึ่งเป็นศัตรูพืชที่สำคัญ

      โครงการพัฒนาพันธุ์มะเขือม่วงบีที (มะเขือม่วงดัดแปลงพันธุกรรม) ดำเนินการโดยนักวิทยาศาสตร์จาก University of the Philippines Los Baños-Institute of Plant Breeding (UPLB-IPB) ถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือในการแก้ไขปัญหานี้

       จากการศึกษาของ Dr. Cesar Quicoy นักเศรษฐศาสตร์และศาสตราจารย์จาก UPLB พบว่าเกษตรกรผู้ปลูกมะเขือม่วงจะสูญเสียคิดเป็นมูลค่า 33.85 พันล้าน PhP (634 ล้านเหรียญสหรัฐ) เนื่องจากความล่าช้าในการอนุญาตให้ปลูกมะเขือม่วงบีทีในเชิงพาณิชย์

      มะเขือม่วงบีทีมีโปรตีนธรรมชาติจากแบคทีเรียในดิน ที่มีชื่อว่า Bacillus thuringiensis ซึ่งทำให้ต้านทานต่อ EFSB โปรตีนบีที มีผลต่อ EFSB เท่านั้น และปลอดภัยสำหรับมนุษย์สัตว์เลี้ยงและแมลงที่ไม่ใช่เป้าหมาย

      การปลูกมะเขือม่วงในเชิงพาณิชย์ไม่เพียงแต่จะเพิ่มผลผลิตและกำไรของเกษตรกรผู้ปลูกมะเขือม่วง แต่ยังช่วยเพิ่มสุขภาพและสิ่งแวดล้อมด้วย

       เนื่องจากการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชลดลงร้อยละ 48 ต่อเฮกตาร์ (1 เฮกตาร์ เท่ากับ 6.25 ไร่) และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมคิดเป็นร้อยละ 19.5 เมื่อเทียบกับเกษตรกรที่ไม่ได้ปลูกมะเขือม่วงบีที

       ครับ เป็นผลการศึกษาที่แสดงให้เห็นถึงความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการไม่อนุญาตให้ใช้มะเขือม่วงบีทีในฟิลิปปินส์

      อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.isaaa.org/blog/entry/default.asp?BlogDate=2/3/2021