โดย…ดร.นิพนธ์ เอี่ยมสุภาษิต

         หลังจากที่บริษัทมอนซานโต้ ได้ส่งใบคำร้องเพื่อขออนุญาตนำเข้าข้าวโพดดัดแปลงพันธุกรรมที่ทนแล้ง ทนทานสารไกลโฟเสทและต้านทานต่อแมลงศัตรู ซึ่งมีจำนวนยีนที่ถูกดัดแปลงพันธุกรรมทั้งหมด 5 ยีน (five‐event stack maize) และข้าวโพดดัดแปลงพันธุกรรมที่เกิดจากการรวมตัวรายย่อยของ 5 ยีนดังกล่าว คณะผู้เชี่ยวชาญสิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรมของหน่วยงานความปลอดภัยด้านอาหารแห่งยุโรป (Panel on Genetically Modified Organisms of the European Food Safety Authority – GMO Panel) ได้รับการร้องขอให้ส่งความคิดเห็นทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับความปลอดภัยของข้าวโพดชุดดังกล่าว

          ก่อนหน้านี้คณะผู้เชี่ยวชาญจีเอ็มโอได้เคยประเมินข้าวโพดที่มีการดัดแปลงพันธุกรรมแต่ละยีน และที่มีการรวมยีนย่อย ๆ อีก 11 รายการ แต่ไม่พบข้อกังวลด้านความปลอดภัย โดยการวิเคราะห์สมบัติโมเลกุลและผลการประเมินทางพิษวิทยาของสารก่อภูมิแพ้ และการประเมินคุณค่าทางโภชนาการระบุว่าข้าวโพดดัดแปลงพันธุกรรมที่มีการรวมตัวกันของยีนจากแต่ละยีน และ ที่มีการรวมตัวกันทั้งหมด 5 ยีน ชี้ให้เห็นว่า ไม่ก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยด้านอาหารและอาหารสัตว์ และรวมถึงความกังวลที่เกี่ยวกับโภชนาการ

          ผู้เชี่ยวชาญจีเอ็มโอจึงสรุปว่า ข้าวโพดที่มีจำนวนยีนที่ถูกดัดแปลงพันธุกรรมรวมกันทั้งหมด 5 ยีนนี้ มีความปลอดภัยและมีคุณค่าทางโภชนาการเทียบเท่ากับข้าวโพด ที่ไม่ได้ดัดแปลงพันธุกรรมและสายพันธุ์อ้างอิงที่ไม่ใช่จีเอ็ม และในกรณีที่มีการปล่อยข้าวโพดดังกล่าวโดยไม่ตั้งใจลงสู่สิ่งแวดล้อมสิ่งนี้จะไม่เพิ่มความกังวลด้านความปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม

         คณะผู้เชียวชาญจีเอ็มโอสรุปว่า มีความเป็นไปได้น้อยมากที่จะเกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อันเกิดจากการปลดปล่อยข้าวโพดที่มีจำนวนยีนที่ถูกดัดแปลงพันธุกรรมรวมกันทั้งหมด 5 ยีน โดยไม่ตั้งใจสู่สิ่งแวดล้อม และเนื่องจากไม่มีข้อมูลใหม่เกี่ยวกับข้าวโพดดัดแปลงพันธุกรรมที่มีแต่ละยีน และที่มีการรวมยีนย่อย ๆ อีก 11 รายการ ที่เคยประเมินก่อนหน้านี้ ที่จะนำไปสู่การแก้ไขข้อสรุปดั้งเดิมเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้าวโพดที่มีจำนวนยีนที่ถูกดัดแปลงพันธุกรรมรวมกันทั้งหมด 5 ยีน คณะผู้เชียวชาญจีเอ็มโอ พิจารณาว่าข้อสรุปก่อนหน้านี้ยังคงใช้ได้

          ครับก็เป็นสิ่งยืนยันได้อีกครั้งหนึ่งว่า ข้าวโพดดัดแปลงพันธุกรรม มีความปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัยของมนุษย์ แล้วทำไมรัฐบาลไทยจึงยังไม่ส่งเสริมให้ปลูกครับ!

         อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://efsa.onlinelibrary.wiley.com/doi/10.2903/j.efsa.2019.5774