โดย…ดร.นิพนธ์ เอี่ยมสุภาษิต
ข้อมูลล่าสุดจากกรมสถิติการเกษตรแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา(U.S. Department of Agriculture’s National Agricultural Statistics Service) ได้แสดงให้เห็นว่า ในปี 2559 ฟาร์มเกษตรอินทรีย์ที่ได้รับการรับรองมีมากกว่า 14,000 แห่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 56 จากปี 2554 ซึ่งเป็นปีที่มีข้อมูลที่นำมาเปรียบเทียบได้ และในขณะที่รัฐแคลิฟอร์เนียยังคงเป็นรัฐที่มีจำนวนฟาร์มเกษตรอินทรีย์มากกว่ารัฐอื่น ๆ แต่รัฐอื่น ๆ อีกหลายแห่งก็มีการเติบโตอย่างมากในการทำเกษตรอินทรีย์ในช่วงเวลาดังกล่าว โดยเฉพาะในภาคใต้ของประเทศ
การเพิ่มขึ้นของการทำเกษตรอินทรีย์ในสหรัฐอเมริกาเกิดขึ้นพร้อม ๆ กับความอยากทานอาหารอินทรีย์ที่เพิ่มขึ้นของชาวอเมริกันในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมาฟาร์มและฟาร์มปศุสัตว์ ที่ขายสินค้าเกษตรอินทรีย์ที่ผ่านการรับรอง มีรายได้เกือบ 7.6 พันล้านดอลลาร์ในปี 2559 มากกว่าสองเท่าของยอดขาย 3.5 พันล้านดอลลาร์ในปี 2554
ตามผลการวิจัยของ USDA’s Economic Research Serviceยอดค้าปลีกของอาหารอินทรีย์เติบโตอย่างรวดเร็วจากปี 1994 ถึง 2014 และในปี 2015 สมาคมการค้าอินทรีย์ (Organic Trade Association) ประมาณการยอดค้าปลีกอินทรีย์ของสหรัฐอยู่ที่ 43 พันล้านเหรียญสหรัฐ เป็นการเติบโตที่เป็นตัวเลขสองหลักเมื่อเทียบตั้งแต่ปี2543 ซึ่งเป็นปีที่ USDA ได้จัดตั้งมาตรฐานเกษตรอินทรีย์แห่งชาติ
ถึงกระนั้นก็ตามพื้นที่การเกษตรในสหรัฐฯ ที่ทำเกษตรอินทรีย์โดยรวมยังมีอยู่น้อย โดยในปี 2559 มีพื้นที่ทำเกษตรอินทรีย์ที่ได้รับการรับรองเพียง5 ล้านเอเคอร์คิดเป็นพื้นที่ที่น้อยกว่าร้อยละ1ของพื้นที่ทำการเกษตรทั้งหมด 911 ล้านเอเคอร์ทั่วประเทศ
ครับ ยังเป็นประเด็นที่น่าคิดว่า ถ้าการทำเกษตรอินทรีย์นั้นดีจริงอย่างที่คิด ทำไมจึงมีอัตราการขยายพื้นที่ที่ต่ำมาก
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://www.pewresearch.org/fact-tank/2019/01/10/organic-farming-is-on-the-rise-in-the-u-s/