โดย…ดร.นิพนธ์ เอี่ยมสุภาษิต
องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (United States Food and Drug Administration – FDA) ได้อนุญาตให้ข้าวสีทองใช้เพื่อการบริโภคได้ นับว่าเป็นอีกหน่วยงานที่ได้ประเมินและอนุญาตให้ใช้ข้าวสีทองซึ่งเป็นข้าวที่ได้จากการดัดแปลงพันธุกรรม เป็นอาหารได้ .
ก่อนหน้านี้ก็มีหน่วยงานมาตรฐานอาหารของออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ (Food Standards Australia, New Zealand) และหน่วยงานเพื่อสุขภาพของแคนาดา (Health Canada) ที่อนุญาตเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ และ มีนาคม 2561 ตามลำดับ
ในหนังสือตอบจากหน่วยงานดังกล่าวไปถึงผู้พัฒนาพันธุ์ข้าวสีทอง ซึ่งก็คือ สถาบันวิจัยข้าวนานาชาติ (International Rice Research Institute – IRRI) FDA มีความเห็นด้วยว่า ข้าวสีทองดังกล่าวมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค
โดยหนังสือตอบจาก FDA สรุปว่า “จากข้อมูลที่ IRRI เสนอมา ณ ขณะนี้ FDA ไม่มีข้อสงสัยใด ๆ ที่ต้องเป็นกังวล ในเรื่องของอาหารและอาหารสัตว์ที่ได้มาจาก ข้าวสีทอง สายพันธุ์ GR2E”
เป็นข้อสรุปของ FDA ที่ได้จากการประเมิน ข้าวสีทอง สายพันธุ์ GR2E ที่มียีนควบคุมการสังเคราะห์ phytoene synthase และ carotene desaturaseซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการสังเคราะห์ carotenoid
ด้วยยีนดังกล่าวทำให้ข้าวสีทองสามารถสร้างสารตั้งต้นที่จะพัฒนาเป็นวิตามินเอ คือ beta-carotene ทำให้เมล็ดข้าวจึงมีสีเหลือง
[adrotate banner=”3″]
ข้าวสีทองนี้ มุ่งที่จะใช้แก้ปัญหาการขาดวิตามินเอ ซึ่งจัดเป็นโรคหนึ่งที่มีความสำคัญ ประมาณว่า เด็กก่อนเข้าโรงเรียนจำนวน 250 ล้านคน เป็นโรคนี้ การขาดวิตามินเอเป็นสาเหตุให้เกิดตาบอดและตายเมื่อยังเยาว์
ครับ เราต้องการให้เด็กจำนวนดังกล่าวมีชีวิตอยู่อย่างคนปกติ หรืออยากให้เขาตายครับ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://allianceforscience.cornell.edu/blog/2018/05/us-fda-approves-golden-rice/