โดย …ดร.นิพนธ์ เอี่ยมสุภาษิต
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้เอง (ปี 2561) นักวิทยาศาสตร์จาก Wageningen University & Research ในประเทศเนเธอร์แลนด์ และจากสถาบันอื่น ๆ ได้ลงพิมพ์บทความงานวิจัยที่ได้จากการศึกษาในแปลงทดลองที่ Vredepeelเป็นเวลาหลายปี ซึ่งสรุปได้ว่า จากการศึกษาการปลูกพืชอินทรีย์มาเป็นเวลา 13 ปี จะได้ผลผลิตใกล้เคียงกับการปลูกด้วยวิธีการปกติ และยังลดการชะล้างไนเตรดลงไปในน้ำใต้ดินด้วย
อ่านดูแล้วเหมือนจะดี แต่นักวิทยาศาสตร์คนอื่น ๆ จากสถาบันเดียวกัน คือ Wageningen University & Research มีความเห็นว่า ผลการศึกษาที่ลงพิมพ์นั้น ไม่มีความสอดคล้องกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการทำวิจัยและการสรุปผลวิจัย จึงได้ทำการวิเคราะห์ใหม่ ซึ่งพบว่า ตลอดเวลา 13 ปีไม่ได้ปลูกศึกษาจากพืชชนิดเดียว
[adrotate banner=”3″]
กล่าวคือช่วงแรก ๆ ศึกษาในพืชชูการ์บีท แต่ในช่วงหลัง ๆ ศึกษาในพืชข้าวโพด ซึ่งทำให้ดูเหมือนว่า ผลผลิตโดยเฉลี่ยจากการปลูกพืชในระบบเกษตรอินทรีย์นั้นเพิ่มขึ้น แต่ในความเป็นจริงเมื่อพิจารณาเฉพาะพืช ไม่ได้เป็นเช่นนั้น
จากการปลูกเปรียบเทียบทั้ง 2 ระบบ คือระบบเกษตรอินทรีย์ และระบบปกติ ระหว่างปี 2554 – 2559 โดยศึกษาในพืชชนิดเดียวกัน พบว่า ผลผลิตของพืชในระบบเกษตรอินทรีย์ จะต่ำกว่าในระบบเกษตรปกติ ร้อยละ 20 ซึ่งใกล้เคียงกับการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ ที่ได้จากการศึกษาเปรียบเทียบจำนวนมากทั้ง 2 ระบบ
ครับ เข้าใจตรงกันนะครับว่า ผลิตผลจากการทำเกษตรอินทรีย์จะต่ำกว่าการทำเกษตรแบบปกติครับ!
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.wur.nl/en/news-wur/Show/New-analysis-of-research-results-organic-agriculture-less-productive-than-conventional-agriculture-.htm