สพฐ.-เนคเทค จับมือซีพีเอฟ หนุนรร.เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านผลิตอาหารในโรงเรียน-ชุมชน
สพฐ. จับมือ ซีพีเอฟ เนคเทค และ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท สนับสนุนโรงเรียนในโครงการ “ซีพีเอฟ อิ่ม สุข ปลูกอนาคต” เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการผลิตอาหาร เพื่อโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนและเป็นตลาดของชุมชน สร้างภาวะโภชนาการที่ดีให้กับนักเรียน
นายทรงวุฒิ มลิวัลย์ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนเพื่อโครงการอาหารกลางวัน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เปิดเผยว่า ในปี 2562 นี้ เข้าสู่ปีที่ 5 แล้วที่สพฐ.ร่วมกับบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ และเครือข่ายพันธมิตร ดำเนินโครงการซีพีเอฟ อิ่ม สุข ปลูกอนาคต ซึ่งเป็นโครงการที่ส่งเสริมเด็กและเยาวชนไทยเข้าถึงอาหารที่มีคุณภาพและปลอดภัย ทำให้เด็กนักเรียนมีภาวะโภชนาการที่ดี ลดปัญหาทุพโภชนาการ ซึ่งผลการดำเนินโครงการฯที่ผ่านมาพบว่าภาวะทุพโภชนาการในเด็กลดลง รวมทั้งผลสัมฤทธิ์ด้านการเรียนที่ดีขึ้นด้วย
นอกจากนี้ ยังได้ต่อยอดให้โรงเรียนเป็นแหล่งเรียนรู้ที่ยั่งยืนด้านการผลิตอาหารให้มีความทันสมัย ใหม่เสมอ และใช้ได้จริง รวมถึงการขยายผลให้เป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับโรงเรียนหรือสถานศึกษาอื่นๆ และชุมชนเข้ามาเรียนรู้กิจกรรมต่างๆ และนำไปปฎิบัติได้ อาทิ การเลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา เพาะเห็ด ปลูกผักสวนครัว ฯลฯ ขณะเดียวกันโรงเรียนจะเป็นตลาดของชุมชน ในการนำผลผลิตไปขายให้กับโรงเรียนเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการประกอบอาหารกลางวันอย่างเพียงพอและต่อเนื่อง เพราะผลผลิตของโรงเรียนไม่พอต่อการบริโภคทั้งปี ที่สำคัญที่สุด คือ เด็กนักเรียนจะได้บริโภคอาหารปลอดภัย
ด้านนายวุฒิชัย สิทธิปรีดานันท์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาที่ยั่งยืน บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ กล่าวว่า ปี 2561 มีโรงเรียนที่ได้รับการพิจารณาให้เป็นแหล่งเรียนรู้ฯ จำนวน 4 โรงเรียน ได้แก่ ได้แก่ 1. โรงเรียนบ้านคลองยาง (มูลบนอุปถัมภ์) อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา แหล่งเรียนรู้การผลิตอาหารตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง 2.โรงเรียนบ้านลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา 3. โรงเรียนวัดบางปิดล่าง (ราษฎร์สงเคราะห์) ศูนย์ปัญจวิทยาคาร อ.แหลมงอบ จ.ตราด และ 4.โรงเรียนบ้านวังใหญ่ อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี จากปี 2560 ซึ่งมีโรงเรียนที่เป็นแหล่งเรียนรู้ฯ 2 โรงเรียน ได้แก่ แหล่งเรียนรู้โครงการซีพีเอฟอิ่ม สุข ปลูกอนาคต โรงเรียนบ้านใหม่สำโรง อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา และโรงเรียนบ้านคลองแขยง อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร ทำให้ปัจจุบันมีโรงเรียนในโครงการซีพีเอฟ อิ่ม สุข ปลูกอนาคตที่เป็นแหล่งเรียนรู้การผลิตอาหารฯแล้ว 6 โรงเรียน คาดว่าในปี 2562 จะมีจำนวนเพิ่มเป็น 10 โรงเรียน
ขณะที่นายวิชัย ปลาบู่ทอง ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านวังใหญ่ เป็น 1 ใน 6 โรงเรียนที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นแหล่งเรียนรู้ฯ ปัจจุบันมีจำนวนนักเรียน 145 คน เปิดสอนตั้งแต่ระดับอนุบาล 2- ประถมศึกษาปีที่ 6 กล่าวว่า นอกจากโรงเรียนจะเป็นแหล่งเรียนรู่ของนักเรียนด้านการผลิตอาหารแล้ว ในปี 2561 ยังมีหน่วยงานภายนอกและสถานศึกษา 5 แห่งที่เข้ามาศึกษาดูงาน อาทิ คณะผู้บริหารของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ เขต 1 และเขต 2 , โรงเรียนจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นต้น
“โรงเรียนบ้านวังใหญ่ เข้าร่วมโครงการซีพีเอฟ อิ่ม สุข ปลูกอนาคต ตั้งแต่ปี 2558 โดยในปีแรกซีพีเอฟช่วยสนับสนุนกิจกรรมการผลิตอาหารเป็นฐานการเรียนรู้ 10 ฐาน อาทิ โรงเรือนเลี้ยงไก่ ไข่ ฐานเพาะเห็ด เพราะรักฐานผัก รักสุขภาพ ฐานปลาเพื่อน้อง ฐานผลไม้ปลอดสาร ฐานสมุนไพร เป็นต้น โรงเรียนมีกองทุนหมุนเวียนสามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง และปัจจุบันซีพีเอฟยังเข้ามาช่วยสนับสนุนกิจกรรมสหกรณ์ของโรงเรียนด้วย” ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านวังใหญ่ กล่าว
โครงการซีพีเอฟ อิ่ม สุข ปลูกอนาคต เป็นความร่วมมือของซีพีเอฟ สพฐ. ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) และมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท เริ่มดำเนินโครงการมาตั้งแต่ปี 2558 โดยในปี 2561-2562 เป็นการร่วมสร้างเครือข่ายเพื่อสร้างแหล่งเรียนรู้การเข้าถึงอาหารในโรงเรียนและชุมชน ช่วยส่งเสริมเด็กและเยาวชนไทยเข้าถึงอาหารมากกว่า 18,000 คน ปัจจุบันมี 77 โรงเรียนจากทั่วประเทศที่สมัครเข้าร่วมโครงการดังกล่าว นอกจากนี้ ยังเป็นโครงการที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ หรือ Sustainable Development Goals (SDGs) 17 ประการ ในข้อ 2 คือ ขจัดความหิวโหย