“กฤษฎา”หนุน ศพก.เป็นตัวแทนขับเคลื่อน”ไทยนิยม”สู่ภูมิภาค

  •  
  •  
  •  
  •  

“กฤษฎา” หนุน ศพก. เป็นตัวแทนขับเคลื่อนโครงการไทยนิยมไปยังส่วนภูมิภาค ควบคู่การใช้ Big Data เป็นฐานข้อมูล หวังเดินหน้าภาคเกษตรอย่างยั่งยืน ย้ำให้ตรวจสอบการบริหารงบฯทุกโครงการว่ามีความถูกต้อง โปร่งใส และถึงมือเกษตรกรหรือไม่

นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการสัมมนาบทบาทของศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) ในการสนับสนุนนโยบายสำคัญของรัฐบาล ณ กรมส่งเสริมการเกษตร ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้จัดตั้งศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) 882 ศูนย์ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้สำคัญของเกษตรกรในพื้นที่ และยังเป็นหน่วยเชื่อมองค์ความรู้ไปสู่การปฏิบัติจริงสู่ระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่   นอกจากนี้ ศพก. มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนนโยบายสำคัญของรัฐบาล โดยเฉพาะโครงการเสริมสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรรายย่อย ซึ่งใช้ ศพก. เป็นสถานที่อบรมและเป็นวิทยากรหลักร่วมกับวิทยากรด้านเกษตรอื่น ๆ

สำหรับเป้าหมายต่อไปจะต้องให้ ศพก. เป็นหน่วยสนับสนุนการดำเนินงานตามนโยบายภาครัฐอย่างเป็นรูปธรรม โดยเป็นฐานเรียนรู้ แหล่งองค์ความรู้ และแหล่งถ่ายทอดความรู้ทางการเกษตรที่สำคัญ รวมทั้งขอให้ ศพก. ทำหน้าที่เป็นเสมือนตัวแทนของหน่วยราชการในพื้นที่ในการรับทราบปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกร และข้อเสนอแนะต่าง ๆ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขได้อย่างทันท่วงที ในขณะเดียวกันขอให้ตรวจสอบการบริหารงบประมาณในโครงการต่าง ๆ ของภาครัฐที่ลงไปยังพื้นที่ ว่ามีความถูกต้อง โปร่งใส และถึงมือเกษตรกรหรือไม่ ซึ่งทั้งหมดนี้จะสร้างความเข้มแข็งให้ ศพก. และเกษตรกรในระดับพื้นที่อย่างยั่งยืน

[adrotate banner=”3″]

ด้านนายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า การสัมมนาในวันนี้ มุ่งให้เกิดการขับเคลื่อนงาน ศพก. อย่างเป็นรูปธรรม โดยคณะกรรมการ ศพก. ระดับประเทศก็จะมีความสำคัญและมีบทบาทในการช่วยขับเคลื่อนงานของรัฐบาลมากขึ้น รวมทั้งเป็นแกนกลางสำคัญในภาคการเกษตรระดับพื้นที่ โดยเฉพาะการขับเคลื่อนโครงการไทยนิยมยั่งยืนของรัฐบาล

ดังนั้น ศพก. ทุกแหล่งจะต้องพัฒนาศักยภาพและเชื่อมโยงเครือข่ายองค์ความรู้เพื่อให้ครอบคลุมองค์ความรู้ตามความต้องการของสมาชิกในชุมชน และเน้นย้ำว่าการดำเนินการทุกโครงการฯ ไทยนิยม จะต้องดำเนินการด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม ตรวจสอบได้ และให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับเกษตรกรในระดับพื้นที่ และเกิดการปฏิรูปภาคการเกษตรอย่างแท้จริง โดยเกิดการจากคิด และการมีส่วนร่วมของชุมชน โดยมี ศพก. เป็นผู้คอยสนับสนุนและเชื่อมโยงโครงการสำคัญของรัฐบาล

ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีเกษตรฯ ได้เยี่ยมชมการขึ้นทะเบียนเกษตรกร ซึ่งปัจจุบันพัฒนาเป็นระบบแอพพลิเคชั่น ในชื่อ “DOAE FARM BOOK” เกษตรกรเพียงดาวน์โหลดแอพฯ ก็สามารถแจ้งปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรได้ทันที โดยไม่ต้องเดินทางไปสำนักงานเกษตรอำเภอ และตั้งเป้าให้ฐานข้อมูลของกรมส่งเสริมการเกษตรทั้งหมด ใช้สำหรับวางแผนการเพาะปลูก โดยเฉพาะการวาดผังแปลงดิจิตอลในระบบส่งเสริมการเกษตร ซึ่งปัจจุบันดำเนินการสำเร็จใน พื้นที่แปลงใหญ่ข้าวโพดทั้งหมด 138 แปลง ทั่วประเทศ และวางแผนที่จะขยายผลในพืชอื่น ๆ ต่อไป