กระทรวงเกษตรฯ สานพลัง สสส. และเครือข่ายงดเหล้า ร่วมรณรงค์ปลุกกระแสการดื่มนมในกลุ่มวัยรุ่น พร้อมเชิญชวนผู้ประกอบการร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในการปรับเปลี่ยนพื้นที่เสี่ยง ให้เป็นพื้นที่สร้างสรรค์ หวังลดนักดื่มหน้าใหม่
นายธนิตย์ เอนกวิทย์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการบริโภคนม ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) เครือข่ายมหาวิทยาลัยปลอดเหล้าและภาคีเครือข่าย เป็นประธานพิธีเปิดโครงการร้านนมสร้างสุข..สนุกได้ มันส์ได้ ไร้แอลกอฮอล์ เพื่อรณรงค์เชิญชวนให้คนไทยบริโภคนมให้มากขึ้น โดยส่งเสริมให้เขตพื้นที่โซนนิ่งรอบสถานศึกษา ร่วมกันปรับเปลี่ยนพื้นที่เสี่ยง ให้เป็นพื้นที่กิจกรรมสร้างสรรค์ ปราศจากร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พร้อมกันนี้มหาวิทยาลัยหัวเฉียว เฉลิมพระเกียรติ และสมาชิกร้านนมสร้างสุข ได้ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนแนวคิด วิธีการ เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการเปิดพื้นที่สร้างสรรค์ ณ ลานวิคทอรี่ เกาะพญาไท แขวงอนุสาวรีชัยสมรภูมิ
นายธนิตย์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนโยบายรณรงค์เชิญชวนให้เด็กไทยและคนไทย หันมาให้ความสำคัญกับการดื่มนม เพื่อเสริมสร้างสุขภาพที่ดี โดยผลักดันให้มีการบริโภคนมเพิ่มขึ้นให้ถึง 25 ลิตรต่อคนต่อปี สำหรับวัยเด็กควรดื่มนมจืดวันละ ประมาณ 2-3 แก้ว ขณะที่วัยผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ ควรดื่มวันละ 1-2 แก้ว สำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพควรดื่มนมจืด ชนิดพร่องมันเนย หรือขาดมันเนย วันละ 1-2 แก้ว ทั้งนี้มีการวางแผนส่งเสริมการบริโภคนมในเยาวชนในวัยมัธยมศึกษาและมหาวิทยาลัย โดยจะขอความร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการตั้งจุดจำหน่ายนม (Milk Cornor) ในบริเวณโรงเรียนและมหาวิทยาลัย จัดจำหน่ายในราคาพิเศษ ซึ่งจะสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ไม่ให้มีการจำหน่ายสุราใกล้สถานศึกษา
ดร.นพ.บัณฑิต ศรไพศาล รองผู้จัดการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า สสส. มีหน้าที่ ริเริ่ม ผลักดันกระตุ้น สนับสนุน และร่วมกับ หน่วยงานต่าง ๆ ในสังคม ในการขับเคลื่อนกระบวนการสร้างเสริมสุขภาพ เพื่อให้คนไทยมีสุขภาพดีครบ 4 ด้าน กาย จิต ปัญญา สังคม และร่วมสร้างประเทศไทยให้น่าอยู่ จากข้อมูลการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติที่ผ่านมาถึงปัจจุบัน พบว่าสถานการณ์การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ของคนไทยใน 12 เดือนที่ผ่านมา ในกลุ่มอายุ 15 ปีขึ้นไปและกลุ่มอายุ 15-19 ปี มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉลี่ย ประมาณร้อยละ1.7 ต่อปี
[adrotate banner=”3″]
เภสัชกรสงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) กล่าวถึงการจัดโครงการฯ ว่า กลุ่มเยาวชน นักเรียน นักศึกษา เป็นกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญ ของบริษัทที่ผลิตและจัดจำ หน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ความสะดวกในการซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตัวกระตุ้นให้เกิดนักดื่มหน้าใหม่ อันนำ ไปสู่ปัญหาต่าง ๆ ตามมา จากการที่รัฐบาลมีความพยายามกำหนดโซนนิ่ง นับว่าเป็นการมอบพื้นสีขาวให้กับเยาวชนเพิ่มมากขึ้น เครือข่ายองค์กรงดเหล้าทั้ง 9 ภาค จึงมีแนวคิด จัดโครงการ “ร้านนมสร้างสุข” เป็นโครงการโมเดลร้านนำร่อง โดยหวังปลุกกระแสการดื่มนม หรือเครื่องดื่มทดแทน ในการพบปะสังสรรค์ ของเยาวชน ส่งเสริมการปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินชีวิตภายใต้สิ่งแวดล้อมในรั้วสถาบันการศึกษา เปิดพื้นที่สร้างสรรค์ให้กลุ่มเด็กและเยาวชน รวมทั้งสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลและร่วมแก้ปัญหาเขตโซนนิ่งรอบสถานศึกษาอีกด้วย ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถสมัครผ่านทาง เฟซบุ๊กแฟนเพจ ร้านนมสร้างสุข