สภาเกษตรกรจังหวัดยโสธร เดินหน้าสนับสนุนเกษตรกรใช้พลังงานจาก “โซลาร์เซลล์” ด้วยฝีมือตนเอง เพื่อลดต้นทุนการเกษตร แกนนำเกษตรกรในนามกลุ่มวิสาหกิจศูนย์ข้าวชุมชนบ้านโนนหนองผือ อ.ไทยเจริญ สุดปลื้มที่สมาชิกได้มีความรู้ และติดตั้งแผลโซเวลล์ ทั้งในแปลงเกษตรและติดตั้งบนหลังคาซเล้งเคลื่อนที่ เผยทำให้ชาวบ้านมีน้ำทำการเกษตรได้ตลอดทั้งปี
นายชวณัฐ ถวิลการ หัวหน้าสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดยโสธร เปิดเผยว่า ด้วยแนวคิดของนายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ ที่ได้กล่าวไว้ว่าเกษตรกรต้องลดต้นทุนการผลิตเพื่อให้อยู่รอดภายใต้สถานการณ์หลากหลายที่รุมเร้าในปัจจุบันและต่อยอดไปยังอนาคตได้ สำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดยโสธรได้มีการเข้าพบเกษตรกรในพื้นที่ต่างๆรวมทั้งจัดประชุมเพื่อรับฟังปัญหาและความต้องการของเกษตรกร องค์กรเกษตรกร แล้วนำปัญหาเหล่านั้นประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขให้ถูกเรื่อง ตรงประเด็น นำไปสู่โครงการต่างๆ อาทิ โครงการอบรมอาชีพหลักสูตร ยกระดับฝีมือสาขาการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อการเกษตร เนื่องจากโซลาร์เซลล์ มาใช้ในภาคการเกษตรสามารถลดต้นทุนช่วยเพิ่มผลผลิตได้
จากนั้นได้ประสานงานกับสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดยโสธร ที่มีเป้าหมายร่วมกันคือ อยากให้เกษตรกร ชาวบ้านได้มีความรู้ในเรื่องพลังงานทดแทนโดยเฉพาะโซลาร์เซลล์ จึงจัดโครงการดังกล่าวขึ้น และได้ทำการฝึกอบรมไปแล้ว 2 รุ่น ในพื้นที่อำเภอไทยเจริญ และอำเภอมหาชนะชัย ในการอบรมเกษตรกรจะได้รับความรู้เกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์ ความรู้เกี่ยวกับระบบไฟฟ้า เครื่องมือวัดค่าไฟฟ้า การออกแบบและการเลือกใช้อุปกรณ์ในการติดตั้ง การเก็บรักษา และการตรวจซ่อม บำรุงได้ด้วยตัวเอง เพื่อใช้ในครัวเรือนและเพื่อทำการเกษตร เช่น การสูบน้ำ กระจายน้ำ ให้แสงสว่าง เป็นต้น ซึ่งเกษตรกรและองค์กรเกษตรกรให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม สำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดยโสธรยังคงเข้าพบเกษตรกรเพื่อติดตามความก้าวหน้าและสำรวจ หากเกษตรกรมีความสนใจเรื่องโซลาร์เซลล์เพิ่มขึ้นหรือต้องการต่อยอดองค์ความรู้ สำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดยโสธรก็จะประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกษตรกร องค์กรเกษตรกรได้เกิดองค์ความรู้ ต่อยอดไปสู่งานเกษตรของตนเองและกลุ่มเพื่อให้เกิดความยั่งยืนในอาชีพต่อไป
ด้านนายคงศักดิ์ ปวงสุข ประธานกลุ่มวิสาหกิจศูนย์ข้าวชุมชนบ้านโนนหนองผือ ต.ค้าไผ่ อ.ไทยเจริญ จ.ยโสธร กล่าวว่า กลุ่มของตนนั้นปัจจุบันมีสมาชิก 42 ราย พื้นที่ทำการเกษตรกว่า 1,000 ไร่ ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวจำหน่ายในนามศูนย์ข้าวชุมชนโดยได้รับการสนับสนุนจากศูนย์วิจัยข้าวจังหวัดร้อยเอ็ด ขึ้นทะเบียนกับกรมการข้าว กรมวิชาการเกษตรรับรองสายพันธุ์ข้าว 3 สายพันธุ์ ได้แก่ กข 6 ปีนี้จำหน่ายประมาณ 6-7 ตัน กข 15 ปีนี้จำหน่ายประมาณ 100-200 ตัน ขาวดอกมะลิ 105 ปีนี้จำหน่ายประมาณ 100 ตัน รวมทั้งขึ้นทะเบียนองค์กรเกษตรกรกับสภาเกษตรกรแห่งชาติด้วย กลุ่มฯทำการเกษตรด้วยระบบอินทรีย์
หลังจากเสร็จจากฤดูทำนาจะปลูกพืชสวนครัวสร้างรายได้เสริม เช่น ถั่วพร้า ปอเทือง พริก แตงโม ผัก รวมทั้งยางพาราด้วย ซึ่งการทำเกษตรน้ำคือต้นทุนชีวิตของเกษตรกรที่สำคัญ หากทำนา ปลูกพืช ไม่มีน้ำใช้จบได้เลย ซึ่งที่ผ่านมาเคยได้ยินเรื่องโซลาร์เซลล์มาบ้างแต่ไม่มีความรู้เรื่องนี้ กระทั่งทางสำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดยโสธรกับสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดยโสธรได้เข้ามาในพื้นที่เพื่อให้องค์ความรู้ อบรมและฝึกลงมือทำจริง จึงเกิดความคิดขึ้นมาว่า การทำโซลาร์เซลล์ไปใช้ตรงที่ไฟฟ้าไปไม่ถึงเพื่อทำการเกษตร สูบน้ำ ใช้ไฟ จากนั้นจึงร่วมกันออกแบบเป็นลักษณะปิกนิกเคลื่อนที่ได้เพื่อไปสูบน้ำทำการเกษตรปลูกพืชหลังนา หากในกลุ่มสมาชิกคนไหนต้องการใช้ก็ประสานจองแล้วนำเครื่องไปใช้สูบน้ำได้ ไม่ได้คิดค่าบริการ คิดแค่ค่าน้ำมันกับค่าสึกหรอเล็กน้อยนำเข้าเป็นรายได้ของกลุ่มไป
นายคงศักดิ์ บอกว่า ล่าสุดได้ประกอบกับรถซาเล้ง 1 คัน กับสมาชิกบางคนที่พอมีทุนก็ทำประกอบไว้กับบ่อบาดาลเลย หรือบางคนก็ติดแผงโซลาร์เซลล์ไว้ที่นาเพื่อกลางวันใช้สูบน้ำ กลางคืนใช้ให้ความสว่างก็มี มีเงินทุนไม่เกิน 30,000 บาท ก็ประกอบใช้เองได้ แผงโซลาร์เซลล์ โพลี 1 แผงประมาณ 3,000 กว่าบาท เครื่องปั๊มซัมเมอร์ส 1 เครื่องประมาณ 3,000 กว่าบาท ขึ้นอยู่กับจำนวนวัตต์ที่ใช้ประกอบ บ้านไหนมีมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างก็สามารถออกแบบเป็นโครงหลังคาไม่ใช้ก็ถอดออกได้ ถ้าต้องการเก็บไฟไว้ใช้ก็เพิ่มแบตเตอรี่ใช้ทดแทนไฟฟ้าได้ ช่วยประหยัดต้นทุนการผลิต เช่น ค่าแรงงาน ค่าน้ำมัน ค่าไฟ และใช้ได้ยาวนานหลายปี
“ตอนนี้ในกลุ่มสมาชิกต่อแผงโซลาร์เซลล์ใช้เองมีอยู่ 10 ราย สมาชิกในกลุ่มยังมีความต้องการบ่อน้ำบาดาลและโซลาร์เซลล์อยู่ และหากเป็นไปได้ก็อยากให้ภาครัฐช่วยสนับสนุนเรื่องของเครื่องจักรกลช่วยลดต้นทุนเพราะว่าขาดแคลนแรงงาน เช่น รถเกี่ยว รถไถ ตาชั่งขนาดเล็ก เครื่องเป่าคัดเมล็ดพันธุ์ข้าว เครื่องวัดความชื้น จักรเย็บ เครื่องจักรเหล่านี้กลุ่มมั่นใจว่าจะทำให้ข้าวที่เราผลิตนั้นคุณภาพดีขึ้น และสามารถทำการแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและขยายผลออกไปได้อีก” นายคงศักดิ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ต้องขอบคุณทีมงานและเจ้าหน้าที่สภาเกษตรกรจังหวัดยโสธรที่เห็นความสำคัญของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวของบ้านโนนหนองผือ ที่ลงมาให้ความรู้และให้ความคิดใหม่ๆนวัตกรรมใหม่ๆ กลุ่มจะนำเรื่องโซลาร์เซลล์มาปรับปรุงใช้ขยายไปยังพื้นที่ที่ไฟฟ้าไปไม่ถึงและจำเป็นต้องใช้และจะใช้อย่างรู้คุณค่าของพลังงาน
สนใจหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสอบถามได้ที่ สำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดยโสธร หมายเลขโทรศัพท์ 0 4571 4332 หรือ กลุ่มวิสาหกิจศูนย์ข้าวชุมชนบ้านโนนหนองผือ หมายเลขโทรศัพท์ 08 1136 1444