กมธ. ทรัพยากรฯ วุฒิสภา กัดไม่ปล่อย ไล่บี้เจ้าหน้าที่เช็คบิลกลุ่มทุนข้ามชาติฮุบป่า 688 ไร่ ที่ท่าตะเกียบ

  •  
  •  
  •  
  •  

                                                                                         ชีวะภาพ ชีวะธรรม 

กมธ. ทรัพยากรฯ วุฒิสภา กัดไม่ปล่อย ไล่บี้เจ้าหน้าที่เช็คบิลกลุ่มทุนข้ามชาติฮุบป่า 688 ไร่ ที่ท่าตะเกียบให้มาชี้ให้มาให้ข้อมูล แต่ 2 บริษัทเอกชนที่มีชื่อครอบครองที่ดินไม่มีการส่งตัวแทนเข้าร่วมชี้แจงแต่อย่างใด

นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ประธานคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา เป็นประธานการประชุมเพื่อพิจารณาติดตามกรณีกลุ่มทุนจีนบุกรุกป่าทำสวนทุเรียนขนาดใหญ่ ในพื้นที่อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา โดยเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกอบด้วยผู้แทนกรมป่าไม้, สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ฉะเชิงเทรา , ตำรวจภูธรจ.ฉะเชิงเทรา , ผู้แทนจากกรมการปกครอง , อบต.คลองตะเกราและบริษัทเอกชน 2 รายที่มีชื่อครอบครองที่ดินกว่า 688 ไร่ เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการ แต่ปรากฏว่าบริษัทเอกชนไม่มีการส่งตัวแทนเข้าร่วมประชุม กมธ.แต่อย่างใด

นายชีวะภาพ กล่าวว่า ขณะนี้กรมป่าได้ตรวจยึดพื้นที่และดำเนินคดีกับบริษัทเอกชนซึ่งครอบครองที่ดิน ภ.บ.ท.5 ไปแล้ว 300 กว่าไร่ จากทั้งหมด 688 ไร่ ทางคณะกรรมาธิการจึงแนะเร่งดำเนินการให้ครบถ้วน โดยรองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ฉะเชิงเทรา อยู่ระหว่างการขยายผลว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้างและจะรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนก่อนแจ้งข้อกล่าวหากับนายทุนต่อไป

“ที่สำคัญมีหลักฐานการโอนสิทธิ์ ในที่คทช.จำนวน 5 – 6 แปลง บนเนื้อที่ 688 ไร่ให้กับบริษัทเอกชนโดยตรง ไม่ได้ตั้งนอมินีมารับแทน ซึ่งทางอบต.ไม่มีอำนาจหน้าที่โอนสิทธิ์ในป่าสงวนฯ ให้ใคร ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่มาก เพราะ คทช. มีหลายพื้นที่ทั่วประเทศ โดยมีเจ้าหน้าที่รัฐเป็นพยานรับรู้รับทราบ เท่ากับเป็นการเอื้ออำนวยให้กลุ่มทุน ซึ่งไม่สามารถทำได้” นายชีวะภาพ กล่าว.


ทั้งนี้คณะกรรมาธิการฯ ได้สรุปตามข้อกฎหมายว่า 2 บริษัทเอกชนที่รับโอนที่ คทช.ผิดชัดเจน ทั้งคนที่โอนให้และคนที่รับโอน เนื่องจากไม่มีเอกสารสิทธิ์ตามกฎหมาย พร้อมกันนี้จะต้องสร้างความกระจ่างด้วยว่า ที่ดิน ภ.ท.บ. 5 ไม่สามารถโอนสิทธิ์ซื้อขายได้ ยิ่งอยู่ในพื้นที่ คทช. จะต้องอยู่ในมือพี่น้องชาวท่าตะเกียบเท่านั้น จะไปอยู่ในมือนายทุนไม่ได้.