ภาพ : สำนักข่าวไทย
“สนธิรัตน์” หนุมนำเทคโนโลยีชั้นสูง “บล็อกเชน” ติดตั้งในโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม หวังสกัดการลักลอบแอบนำเข้าขจากต่างประเทศ ระบุสามารถตรวจสอบที่มาของวัตถุดิบได้ เผยชี้มีแนวคิดมานานแล้ว ล่าสุดเอกชน “บ.บริษัท พลังงานบริสุทธิ์” เปิดตัวแอปพลิเคชั่นบน Blockchain นำร่องในอุตสาหกรรมปาล์มครั้งแรกในโลก พร้อมโชว์นวัตกรรม นวัตกรรมสังคมองค์กรต้นแบบ พร้อมๆกันด้วย
เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2563 บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน)หรือAE ได้โชว์“นวัตกรรมสังคมองค์กร” หรือ Corporate Social Innovation เพื่อปรับเปลี่ยน พัฒนาองค์กรสู่การบริหาร และการทำงานแบบบูรณาการยังประโยชน์สูงสุดแก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายอย่างยั่งยืน และการผลิตต้นแบบ “สารเปลี่ยนสถานะ” จากน้ำมันปาล์ม ที่เป็นสิทธิบัตรเจ้าแรกในโลก ด้วยแอปพลิเคชั่น “ปาล์มยั่งยืน” แพลตฟอร์มออนไลน์ครั้งแรกในโลก ที่ใช้เทคโนโลยี Blockchain มาวางกลไกไว้ใช้ตรวจสอบทุกธุรกรรมการซื้อขายในอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มในงานงแสดงนวัตกรรม PCM และ platform “ปาล์มยั่งยืน” ณ หอประชุมศุกรีย์ แก้วเจริญ ชั้น 3 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่กล่าวระหว่างไปเป็นปรานงาน
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่ายินที่ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ AE ที่ลงทุนนำบี 100 มาต่อยอดด้วยเทคโนโลยีนวัตกรรมการผลิตต้นแบบสารเปลี่ยนสถานะ หรือ PCM (Phase Change Material) สามารถสร้างมูลค่าเพิ่ม เพราะทำให้แพงกว่า ซีพีโอถึง 3 เท่าตัว โดยสารดังกล่าวกำลังเป็นที่ต้องการของตลาดโลก เพราะนำไปเป็นสารลดอุณหภูมิ ทั้งอุตสาหกรรมสิ่งทอ และก่อสร้าง และยังช่วยสร้างเสถียiภาพราคาปาล์มน้ำมันแก่เกษตรกรด้วย นอกจากนี้และอีเอ ยังใช้แอปพลิเคชัน ‘ปาล์มยั่งยืน’ แพลตฟอร์มออนไลน์ ที่ใช้เทคโนโลยี Blockchain มาวางกลไกไว้ใช้ตรวจสอบทุกธุรกรรมการซื้อขายสร้างความโปร่งใส เป็นธรรม แก่การซื้อปาล์มทั้งระบบ ที่สามารถตรวจสอบได้ว่า ผลผลิตของโรงงานได้เท่าไร สอดคล้องกับแหล่งผลิตวัตถุดิบที่รับซื้อหรือไม่ โดยเฉพาะเรื่องปาล์มน้ำมันปัจจุบันราคาสูง ซึ่งเทคโนโลยีตัวนี้จะสกัดการลักลอบการนำเข้าจากต่างประเทศได้ สอดคล้องกับมาตรการที่คิดและที่ตั้งใจอยู่แล้ว และตอนนี้อยู่ระหว่างที่กำลังการดำเนินงานอยู่ (รายละเอียดในคลิป)
ด้านนายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ AE กล่าวว่า บริษัทฯ ไดดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานสะอาด และนวัตกรรมเทคโนโลยีพลังงานเพื่ออนาคตหลากหลายธุรกิจ ทั้งโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์-พลังงานลม, โรงงานแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน, น้ำมันไบโอดีเซลจากน้ำมันปาล์ม, รถยนต์-เรือโดยสารไฟฟ้าที่เกิดโดยฝีมือคนไทย, สถานีชาร์จรถไฟฟ้า เป็นต้น เน้นธุรกิจที่สอดคล้องกับความต้องการด้านพลังงานในอนาคต การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และได้ประโยชน์สูงสุด
นายอมร กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีอย่างเข้มข้น คิดค้นนวัตกรรมที่ต่อยอด และเพิ่มมูลค่าให้ธุรกิจในปัจจุบัน เน้นรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสีย ชุมชน และประเทศ นำไปสู่เจตจำนงที่จะร่วมสร้างและแบ่งปันความสำเร็จไปด้วยกัน ล่าสุดได้คิดค้น “นวัตกรรมสังคมองค์กร” หรือ Corporate Social Innovation เพื่อปรับเปลี่ยน พัฒนาองค์กรสู่การบริหาร และการทำงานแบบบูรณาการยังประโยชน์สูงสุดแก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายอย่างยั่งยืน
“เราอยากแบ่งปันองค์ความรู้ นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ใช้ในบริษัท มาสร้างประโยชน์ให้กับสังคม และชุมชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เติบโต เข้มแข็ง เกิดประโยชน์ร่วมกันในระยะยาว เป็นรากฐานสู่การพัฒนาชุมชนทุกมิติสู่ความยั่งยืนในที่สุด เราจึงนำร่องด้วยโครงการ ผลิตสารเปลี่ยนสถานะ หรือ PCM (Phase Change Material) จากน้ำมันปาล์มครั้งแรกในโลก โดยนำนวัตกรรมบล็อกเชน ( Blockchain) มาพัฒนาเป็น platform เพื่อใช้บันทึกข้อมูล และตรวจสอบการซื้อขายปาล์มตลอดจนปันผลประโยชน์ตอบแทน ถือเป็นโครงการ CSI ต้นแบบ ของบริษัท ด้วยงบฯลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท เป็นการเพิ่มมูลค่าของปาล์ม และทำให้เกษตรกรและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการผลิตได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น โดยเรามีความเชื่อว่าการพัฒนาอย่างยั่งยืนนั้นต้องคำนึงถึงความสมดุลย์ของ 3P ได้แก่ 1. Planet การบริหารพลังงานเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่โลกใบนี้ ใช้เทคโนโลยีสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและรักษาทรัพยากรธรรมชาติ 2. People สร้างประโยชน์ให้เกิดแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย และ3. Profit การได้รับผลตอบแทนที่ดี สามารถแบ่งปันผลตอบแทนนั้นกลับสู่วงจร” นายอมร กล่าว
รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร EA กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ EA ยังพลิกโฉมอุตสาหกรรมปาล์มไทย ด้วยการเปิดตัวแอปพลิเคชัน ‘ปาล์มยั่งยืน’ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในโลก ที่มีการนำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ประกอบการทำธุรกรรมซื้อขายปาล์ม โดยการลงทะเบียนบันทึกข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลการซื้อขาย และคุณภาพของวัตถุดิบ เพื่อใช้ตรวจสอบที่มาและบันทึกการทำธุรกรรมซื้อขายอย่างถูกต้อง และที่สำคัญสามารถปันผลประโยชน์ส่วนเพิ่มกลับมายังผู้ขายวัตถุดิบในแต่ละขั้นตอนได้หากวัตถุดิบนั้นมีคุณภาพดีจนสามารถนำไปผลิตสาร PCM ที่มีคุณภาพสูงได้ เป็นแรงผลักดันให้เกษตรกรผลิตวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ส่งเสริมให้การกำหนดราคาเป็นไปตามกลไกตลาดอย่างโปร่งใส เป็นธรรม สามารถตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน และมีระบบการจ่ายผลตอบแทนที่สามารถจ่ายเงินให้กับเกษตรกรได้อย่างรวดเร็ว ด้วยวิธีการโอนเข้าบัญชีที่ได้ลงทะเบียนไว้ นอกจากนี้ ด้วยระบบการบันทึกและตรวจสอบทุกขั้นตอนโดยใช้ Blockchain จึงเป็นการป้องกันการลักลอบนำปาล์มเถื่อนเข้ามาซื้อขายได้ อีกทั้งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในเรื่องอื่นๆ ได้ด้วย