นักศึกษาวิทยาลัยประมงสมุทรสาครสร้างความฮือฮาให้กับวงการผู้รักสวยรักงาม หลังจากประสบผลสำเร็จในงานวิจัยสกัดไขมันปลาสวาย มาทำเป็นผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวและลิปสติก ที่ช่วยสามารถฟื้นฟูสภาพและบำรุงเซลล์ผิวหนังเพิ่มความนุ่มนวลของผิว กระชับผิว ลดริ้วรอย เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนังได้เป็นอย่างดี ผลการทอลองพบว่าผู้ใช้พอใจ
สำหรับวิทยาลัยประมงสมุทรสาคร สังกัดสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา ที่ทำการวิจัยไขมันปลาสวายมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวและลิปสติกในครั้งนี้คือ “กฤษมงคล มีเจริญ “ โดยมี “เยาวรัตน์ โกรพบุรี” เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา ทั้งนี้นักศักษาผู้วิจัยและอาจารย์ที่ปรึกษา มองว่าไขมันของปลาสวายนั้นมีโอเมก้า 3 สูงกว่าปลาชนิดอื่น คือมีโอเมก้า 3 สูงถึง 2,570 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนัก 100 กรัม มากกว่าปลาทะเลอย่างปลาแซลมอนที่มีโอเมก้า 3 ราวๆ 1,000-1,700 มิลลิกรัมเท่านั้น ซึ่งโอเมก้า 3 นั้นเป็นกรดไขมันชั้นดี จึงใช้เทคนิคทำให้กลิ่นคาวหมดไปแต่ยังคงเก็บรักษาน้ำมันปลาที่คงประสิทธิภาพสูงสุด
การวิจัยในครั้งนี้เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ครีมน้ำมันปลา ที่ได้จากปลาสวาย มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาคุณสมบัติของน้ำมันปลา และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ผลิตภัณฑ์ครีมน้ำมันปลาที่มีผลต่อการบำรุงผิวหนัง จึงพบว่าคุณสมบัติของโอเมก้า3นั้นสามารถฟื้นฟูสภาพและบำรุงเซลล์ผิวหนังเพิ่มความนุ่มนวลของผิว กระชับผิว ลดริ้วรอย เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนังได้เป็นอย่างดี จึงนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวและลิปสติกซึ่งได้ทำการผลิตออกมาหลายกลิ่นเช่น กลิ่นหอมของมะนาว กลิ่นสตรอว์เบอร์รี่ กลิ่นส้มเป็นต้น แล้วนำมาบรรจุภัณฑ์ให้ดูสวยงาม
หลังจากที่ทำการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์แล้ว ผลการวิจัยพบว่าอาสาสมัครที่ทดลองใช้ครีมบำรุงผิวจำนวน 50 คนเป็นเพศหญิงในวัยรุ่นอายุ 15-20 ปี มีความพึงพอใจ ทั้งในรูปแบบของบรรจุภัณฑ์ พกพาง่าย กลิ่น และความชุ่มชื่นของผวหลังจากที่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ไปแล้ว และความความสำเร็จในเบื้องต้นนี้ ทางวิทยาลัยจะได้ทำการพัฒนาต่อยอดเพื่อจำหน่ายให้กับประชาชนที่สนใจต่อไปในอนาคต
[adrotate banner=”3″]
ก็เป็นเรื่องที่น่าชื่มชมเชยเด็กไทยสมัยใหม่ ที่มีความสามารถในการที่นำวัตถุดิบในท้องถิ่นอย่างปลาสวายที่หาง่าย มีราคาถูก แต่ไขมันปลาสวายมีโอเมก้า 3 สูง ที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ที่ไม่เพียงแต่จะเป็นอหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย หากแต่ยังสามารถนำเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวได้อีกด้วย