ดร.พรเทพ สาระคนธ์ Lead AI/ML ของ AXONS ให้มุมมองภาพรวมของเทรนด์ AI ว่าในปี 2025 “Agentic AI” หรือ ระบบปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถตัดสินใจและดำเนินการเองได้ จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ขับเคลื่อนการพัฒนาของ AI  โดยผสานความสามารถจากหลายเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน ช่วยให้เกษตรกรผู้ใช้งานทำงานได้สะดวกขึ้น มีประสิทธิภาพและมีผลผลิตเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันในกลุ่มธุรกิจเกษตร อธิบายว่าปัจจุบัน AI ถูกนำมาใช้ในภาคเกษตรและปศุสัตว์ ใน 3 รูปแบบ

1.Computer Vision: เลียนแบบการมองเห็นของมนุษย์ เช่น การวิเคราะห์ภาพและวิดีโอในฟาร์มเพื่อประเมินน้ำหนักของสัตว์หรือปริมาณอาหารที่เหลือ ซึ่งช่วยให้เกษตรกรปรับปริมาณอาหารให้สัตว์ในฟาร์มได้เหมาะสม ลดอาหารเหลือทิ้ง ลดต้นทุนการผลิต

2.Machine Learning: คล้ายกับสมองมนุษย์ที่ใช้ทำนายและวางแผน เช่น การคาดการณ์ราคาวัตถุดิบหรือความต้องการใช้ ซึ่งช่วยให้เกษตรกรสามารถวางแผนการซื้อวัตถุดิบอย่างเหมาะสมทั้งปริมาณและเวลา บริหารจัดการต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการเก็บสต็อกไว้สูงเกินความจำเป็น หรือมีของไม่เพียงพอต่อความต้องการ

3.Natural Language Processing (NLP): เลียนแบบความสามารถสื่อสารของมนุษย์ เราจะเห็นใน Chatbot เป็นส่วนมาก ช่วยให้มนุษย์สื่อสารกับระบบโดยไม่ต้องเขียนโปรแกรม

ดร.พรเทพ ได้เน้นว่าการประยุกต์ใช้ AI ในภาคเกษตรจะมุ่งเน้นไปที่ การเกษตรแม่นยำ (Precision Agriculture) และ การเกษตรยั่งยืน (Sustainable Agriculture) เป็นการทำฟาร์มและปศุสัตว์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดด้วยการใช้ทรัพยากรที่น้อยลง พร้อมทั้งปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานให้เหมาะกับการใช้งานผ่านมือถือ และสร้างประสบการณ์ใช้งานที่แม่นยำ ใช้ง่าย เร็ว และปลอดภัย “ปีหน้า Agentic AI จะช่วยรวมพลังจากทั้ง 3 โดเมนให้ผู้ใช้สั่งการได้ง่ายดายภายในคลิกเดียว ลดความซับซ้อนและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานอย่างชัดเจน”

ด้าน จิดาภา เมืองพูล  Product Owner ผู้ดูแล FarmOne แอปพลิเคชันบริหารจัดการฟาร์มสำหรับเกษตรกรเพาะปลูก เปิดเผยว่าในปัจจุบัน FarmOne มีการนำ AI มาใช้แล้วสองด้าน ได้แก่ Image Processing วิเคราะห์ภาพถ่ายเพื่อสร้างแบบจำลองตรวจวินิจฉัยโรคพืช ช่วยให้เกษตรกรสามารถระบุสาเหตุและแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว และ การพยากรณ์อากาศ เป็น AI สร้างโมเดลพยากรณ์ล่วงหน้าช่วยให้เกษตรกรวางแผนการเพาะปลูกให้เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศ

ทั้งนี้ในปีหน้า AI จะผนวกกับภาพถ่ายดาวเทียม NDVI เพื่อวิเคราะห์ความสมบูรณ์ของแปลงอย่างละเอียด สามารถวิเคราะห์จุดที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ ทั้งปัญหาจากโรคพืช การดูแลที่ไม่ทั่วถึง ผลที่ได้คือเกษตรกรจะมีข้อมูลเชิงลึกในการตัดสินใจ เพื่อจัดการผลผลิตมีคุณภาพและลดความเสียหายได้มากขึ้น

ขณะที่ นรเทพ สุระแสง ผู้ดูแลแพลตฟอร์ม “AXONS Eyes” กล่าวเสริมว่า ธุรกิจรีเทลในปัจจุบันพบกับความท้าทายในการบริหารจัดการร้านค้า ทั้งการวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าและการควบคุมมาตรฐานการทำงานของพนักงาน  ปัจจุบัน AI ที่ใช้เทคโนโลยี Computer Vision ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลจากกล้อง CCTV ทำให้ธุรกิจสามารถจับสังเกตพฤติกรรมและปัญหาความปลอดภัยได้อย่างรวดเร็ว

“ในปีหน้า เทคโนโลยี AI จะเข้าถึงกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยได้มากขึ้น ด้วยระบบที่ใช้งานง่ายและราคาเป็นกันเอง ธุรกิจขนาดเล็กที่สามารถนำ AI ประยุกต์เพื่อเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขัน”  นรเทพ กล่าว

การพัฒนา Agentic AI ที่สอดคล้องกับความต้องการของภาคเกษตรและธุรกิจค้าปลีก ได้สะท้อนวิสัยทัศน์ของ AXONSนำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์อนาคตอย่างแท้จริง ไม่เพียงแต่จะเปลี่ยนแปลงวิถีธุรกิจและการเกษตรเท่านั้น ยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถสูงขึ้น ทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลและเทคโนโลยีที่ทันสมัย เกิดประสิทธิภาพสูง นำไปสู่ตัดสินใจที่แม่นยำข้น