“ธรรมนัส” ติดตามอ่างเก็บน้ำห้วยขอนแก่น-คลองลำกงฯ หวังเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บกักน้ำไว้ใช้เพื่อการเกษตร อุปโภค-บริโภค

  •  
  •  
  •  
  •  

“ธรรมนัส” ลงพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ติดตามโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยขอนแก่น และโครงการอ่างเก็บน้ำคลองลำกงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หวังเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บกักน้ำไว้ใช้สำหรับการเกษตร และอุปโภค-บริโภค

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยขอนแก่น ณ ตำบลห้วยไร่ อำเภอหล่มสัม จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งโครงการดังกล่าว เป็นโครงการชลประทานขนาดกลาง ก่อสร้างแล้วเสร็จ ปี พ.ศ. 2537 มีความจุที่ระดับเก็บกัก 33.22 ล้าน ลบ.ม. ใช้เป็นแหล่งเก็บกักน้ำไว้ใช้สำหรับการเกษตร และอุปโภค-บริโภค ให้เป็นไปอย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพในช่วงฤดูแล้ง ในพื้นที่ตำบลบ้านติ้ว ตำบลห้วยไร่ ตำบลบ้านหวาย ตำบลปากดุก ตำบลปากช่อง ตำบลบ้านกลาง ตำบลช้างตะลูด และตำบลบ้านไร่ รวมพื้นที่รับประโยชน์ ทั้งหมด 31,880 ไร่ แต่ปัจจุบันในพื้นที่ยังขาดแคลนน้ำในการเกษตร และอุปโภค-บริโภค จึงมีความจำเป็นต้องเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้เพียงพอกับความต้องการ และเพื่อรองรับการขยายตัวด้านการอุปโภค-บริโภคในอนาคต จึงพิจารณาเพิ่มความจุของอ่างเก็บน้ำจาก 33.22 ล้าน ลบ.ม. เป็น 37.96 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งจะทำให้สามารถช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรและประชาชนในพื้นที่ได้

นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยังได้ติดตามโครงการการบรรเทาอุทกภัยเทศบาลเมืองหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ที่เกิดปัญหาอุทกภัยซ้ำซากในฤดูน้ำหลากในพื้นที่เทศบาลหล่มสัก ตาลเดี่ยว สักหลง วัดป่า หนองไข่ว ปากดุก เนื่องจากแม่น้ำป่าสักบริเวณพื้นดังกล่าว มีความจุลำน้ำเพียง 80.00 ลบ.ม./วินาที แต่บริเวณต้นน้ำป่าสักที่อำเภอหล่มเก่า แม่น้ำป่าสักมีความจุลำน้ำ 360.00 ลบ.ม./วินาที ซึ่งเกินศักยภาพการรับน้ำและการระบายน้ำของแม่น้ำป่าสักบริเวณพื้นที่ดังกล่าว กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมชลประทาน จึงได้ศึกษาความเหมาะสมและประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมการบรรเทาอุทกภัยเทศบาลเมืองหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ในการวางแนวขอการศึกษาเบื้องต้น โดยมีแผนดำเนินการใน 4 แผนงาน ประกอบด้วย

1) การกักเก็บน้ำตอนบน และชะลอการไหลของน้ำ เพื่อการตัดยอดน้ำในช่วงฤดูฝนบางส่วนและสามารถนำน้ำไปใช้ในฤดูแล้งได้ 2) การป้องกันพื้นที่ชุมชน โดยการทำพนังกั้นน้ำตลอดแนวแม่น้ำป่าสักในพื้นที่ชุมชน 3) การขุดลอกแม่น้ำป่าสักเพื่อเพิ่มความสามารถในการลำเลียงน้ำ และ 4) การผันน้ำเลี่ยงเทศบาลเมืองหล่มสัก โดยเสนอของบประมาณปี พ.ศ. 2567 โครงการศึกษาความเหมาะสมและประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมการบรรเทาอุทกภัยเทศบาลเมืองหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ แนวคลองผันน้ำเพื่อผันน้ำในเขตคลองสายหลักคลองส่งน้ำฝายฝั่งซ้ายแม่น้ำป่าสัก ซึ่งมีเขตคลองเหลืออยู่ประมาณ 40 เมตร โดยจากการประเมินความเป็นไปได้ในการระบายน้ำ จะสามารถตัดยอดน้ำได้ประมาณ 150 ลบ.ม./วินาที ระยะความยาวทางผันน้ำ 30 กิโลเมตร และหากในอนาคตมีการต่อยอดโครงการโดยการก่อสร้างฝายกั้นคลองผัน จะสามารถเก็บกักน้ำในช่วงฤดูแล้งได้อีกด้วย

จากนั้น ร้อยเอก ธรรมนัส ได้เดินทางไปตำบลวังท่าดี อำเภอหนองไผ่ เพื่อตรวจเยี่ยมโครงการอ่างเก็บน้ำคลองลำกงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นโครงการชลประทานขนาดกลาง มีความจุที่ระดับเก็บกัก 48.52 ล้าน ลบ.ม. หรือ 43% ของบริมาณน้ำท่าที่ไหลลงอ่างเก็บน้ำ มีการก่อสร้างระบบส่งน้ำ ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องจากการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำคลองลำกง ที่ก่อสร้างความเสร็จ ปี พ.ศ. 2554 เพื่อใช้เป็นระบบส่งน้ำสำหรับการเกษตร และอุปโภค-บริโภค ให้เป็นไปอย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ ในพื้นที่ตำบลวังท่าดี ตำบลท่าแดง ตำบลบ่อไทย และตำบลวังโบสถ์ อำเภอหนองไผ่ รวมพื้นที่รับประโยชน์ทั้งหมด 50,000 ไร่ ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างระบบส่งน้ำฝั่งซ้าย ดำเนินการแล้วเสร็จประมาณ 52.53% และมีแผนในการก่อสร้างระบบส่งน้ำฝั่งขวา พร้อมอาคารประกอบ จำนวน 4 สาย

อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมชลประทาน มีแผนในการเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บกักน้ำอ่างเก็บน้ำคลองลำกง โดยการปรับปรุงอาคารระบายน้ำล้น พร้อมอาคารประกอบ ซึ่งจะสามารถเพิ่มปริมาณการเก็บกักน้ำได้อีกประมาณ 6 ล้าน ลบ.ม. (จากเดิม 48.52 ล้าน ลบ.ม. เป็น 54.50 ล้าน ลบ.ม.) และยังเป็นการเพิ่ม