สทนช.ปล่อยแคมเปญของขวัญปีใหม่ 2567 ผนึกหน่วยงานด้านน้ำ “รวมพลังลดท่วมลดแล้งรับมือภัยเอลนีโญ”

  •  
  •  
  •  
  •  

                                                                    ดร.สุรสีห์  กิตติมณฑล

สทนช.ส่งมอบของขวัญปีใหม่ 2567 ในนามรัฐบาล เร่งรวมพลังหน่วยงานด้านน้ำลดท่วมภาคใต้ ลดแล้งในพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภค พร้อมเชื่อมภาคประชาชนมีส่วนร่วมประหยัดน้ำรับมือภัยเอลนีโญ

          ดร.สุรสีห์  กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า ในโอกาสส่งท้ายปีเก่า 2566 ต้อนรับปีใหม่ปี 2567 ที่จะถึงนี้ สทนช. เตรียมมาตรการที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศ โดยบูรณาการทุกหน่วยงานด้านน้ำที่เกี่ยวข้องเพื่อส่งมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชนในนามรัฐบาล ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 ซึ่งให้ทุกส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐเร่งพิจารณากำหนดแผนงาน/โครงการในความรับผิดชอบที่เห็นสมควรดำเนินการสำหรับมอบเป็นของขวัญให้แก่ประชาชน เพื่อสร้างประโยชน์ต่อส่วนรวม ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งสร้างความสุขและขวัญกำลังใจให้ประชาชนคนไทยในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567

      โดย สทนช. ได้ดำเนินการภายใต้แคมเปญ “รวมพลังลดท่วมลดแล้งรับมือภัยเอลนีโญ” ประกอบด้วย 1. มาตรการลดท่วมในพื้นที่ภาคใต้ เนื่องจากขณะนี้พื้นที่ภาคใต้อยู่ในช่วงฤดูฝน และมีความเสี่ยงเกิดสถานการณ์น้ำท่วมในช่วงเดือน ธ.ค. 66 – ม.ค. 67 สทนช. จึงได้จัดตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคใต้ที่จังหวัดยะลา เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือและบริหารจัดการสถานการณ์ ติดตามประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ และอำนวยการหน่วยงานในพื้นที่ในการบริหารจัดการมวลน้ำในช่วงฤดูฝนให้เกิดความเป็นเอกภาพ จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายโดยเร็ว

       ทั้งนี้ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย ซึ่งทุกหน่วยงานจะร่วมกันขับเคลื่อนการปฏิบัติงาน เตรียมเจ้าหน้าที่ ทรัพยากร สถานที่ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้พร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัย ตั้งแต่การป้องกันก่อนเกิดภัย วางแผน และบริหารจัดการน้ำอย่างเหมาะสม พร้อมมีการวิเคราะห์คาดการณ์ให้มีความแม่นยำทันต่อเหตุการณ์มากที่สุด ช่วยลดผลกระทบและให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ได้อย่างทันท่วงที และกลับมาสู่สถานการณ์ปกติโดยเร็ว

      2. มาตรการลดแล้ง สทนช. ได้เร่งบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ติดตาม ตรวจสอบ แก้ไขปัญหาพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ โดยเฉพาะน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค ช่วยลดความเสี่ยงในการส่งผลกระทบต่อประชาชนให้น้อยที่สุด โดยลงพื้นที่ติดตามพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำตามมาตรการรองรับฤดูแล้ง 2566/2567 ชี้เป้าพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ ติดตามสถานการณ์น้ำ พร้อมทั้งเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมดำเนินการจัดทำแผนป้องกันและแก้ไข เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่มีน้ำใช้อย่างเพียงพอตลอดช่วงฤดูแล้งนี้

          ส่วนมาตรการสุดท้าย คือ 3. มาตรการส่งเสริมรณรงค์ภาคประชาชนร่วมประหยัดน้ำ โดย สทนช. ได้มีการเผยแพร่เพลง “ประหยัดน้ำ คือ ประหยัดเงิน” ผ่านการสื่อสารในรูปแบบคลิปวิดีโอ แสดงให้เห็นถึงวิธีประหยัดน้ำซึ่งสามารถปฏิบัติตามได้อย่างง่าย ๆ อาทิ ไม่เปิดก๊อกน้ำทิ้งไว้ ดื่มน้ำให้หมด การนำน้ำที่ใช้แล้วไปใช้ประโยชน์ต่อ เป็นต้น เพื่อช่วยกระตุ้นให้ประชาชนรับรู้เรื่องการใช้ทรัพยากรน้ำอย่างเหมาะสม ประหยัดการใช้ปริมาณน้ำในชีวิตประจำวัน โดยเริ่มต้นจากตนเองเป็นอันดับแรก ซึ่งจะขยายวงกว้างไปสู่ระดับครอบครัว สังคม และประเทศ โดยการร่วมมือร่วมใจกันระหว่างทุกภาคส่วนและภาครัฐ จะช่วยลดปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำได้อย่างยั่งยืน อีกทั้งการลดการใช้น้ำยังสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายทั้งในภาคครัวเรือน ภาคเอกชน
รวมไปถึงช่วยลดการใช้จ่ายงบประมาณของภาครัฐได้อีกด้วย

          “ในช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ซึ่งเป็นวันหยุดยาว สทนช. ยังคงมีการเตรียมความพร้อม และบูรณาการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่เพื่อร่วมกันปฏิบัติงาน ติดตามเฝ้าระวังสภาพอากาศ อิทธิพลของมรสุมหรือพายุหมุนเขตร้อนที่อาจเกิดขึ้นในช่วงดังกล่าว ติดตามสถานการณ์น้ำ และประเมินพื้นที่เสี่ยงที่อาจเกิดอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ที่ยังมีสถานการณ์น้ำหลากในหลายพื้นที่ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่ภาคใต้ที่ทำหน้าที่ในการป้องกัน แก้ไข และบรรเทาผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน หรือให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุดเพื่อเป็นของขวัญแก่พี่น้องประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2567 ที่จะถึงนี้” เลขาธิการ สทนช.กล่าว