“สมศักดิ์” ควงเลขาฯ สทนช. ไปเปิดและร่วมกิจกรรม Big Cleaning Day ผสานกำลังชุมชน เดินหน้ากำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำที่เมืองสุพรรณฯ พร้อมติดตามพื้นที่ประสบอุทกภัย สั่งเร่งเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ และกำชับเตรียมแหล่งน้ำสำรองรับมือเอลนีโญ
วันที่ 28 ต.ค. 66 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดกิจกรรม Big Cleaning Day กำจัดผักตบชวาและวัชพืชกีดขวางทางน้ำ คลองญี่ปุ่นเหนือ บริเวณโรงเรียนวัดทรงกระเทียม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี โดยมี ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) พร้อมด้วย ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ จังหวัด กรมชลประทาน กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงกลาโหม กองบัญชาการกองทัพไทย ผู้นำชุมชน และประชาชนในพื้นที่ เข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก หลังจากนั้น ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบอุทกภัย ณ องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านคลัง อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา และเป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำ ร่วมกับหน่วยงานภายใต้ศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย ภาคกลาง ณ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ตามลำดับ
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาอุทกภัยมาโดยตลอด โดยได้กำหนดมาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2566 จำนวน 12 มาตรการ เพื่อเป็นเครื่องมือในการรับมือ ป้องกัน และบรรเทาภัยที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลางที่เป็นพื้นที่ที่ต้องรับมวลน้ำจากพื้นที่ตอนเหนือของประเทศ ทำให้ประสบปัญหาอุทกภัยอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง จ.สุพรรณบุรีและ จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นสองจังหวัดในพื้นที่ท้ายน้ำที่ได้รับผลกระทบในช่วงที่ผ่านมาด้วย รัฐบาลจึงได้การจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าฯ เพื่อบูรณาการในการเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนในด้านต่างๆ โดยปัจจุบันสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคกลางเริ่มคลี่คลายแล้ว สามารถป้องกันและลดผลกระทบได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การแก้ไขปัญหาในระยะเร่งด่วน ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์น้ำท่วมให้แก่ประชาชน และดำเนินการเยียวยา ฟื้นฟู ตามระเบียบที่กฎหมายกำหนดไว้ ส่วนระยะยาวได้สั่งการให้หน่วยงานต่างๆ ที่ขอรับการจัดสรรงบประมาณต้องเตรียมความพร้อมทุกด้านและกรอกข้อมูลในระบบ Thai Water Plan เพื่อเข้าสู่กระบวนการกลั่นกรองและขอรับการสนับสนุนงบประมาณต่อไป รวมทั้งให้ทุกหน่วยงานเสริมสร้างนวัตกรรมด้านต่างๆ หรือนำนวัตกรรมที่มีอยู่แล้ว มาต่อยอดสำหรับการบริหารจัดการน้ำ สามารถลดปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งของประเทศได้อย่างเป็นระบบและยั่งยืน
ปัจจุบันแม้สถานการณ์น้ำท่วมจะคลี่คลายแล้ว แต่ยังคงมีปัญหาน้ำท่วมขังอยู่และมีอุปสรรคจากสิ่งกีดขวางทางน้ำ ในวันนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใต้ศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าฯ จึงได้ร่วมกันดำเนินกิจกรรม Big Cleaning Day เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมกำจัดผักตบชวา วัชพืชและสิ่งกีดขวางน้ำ บริเวณคลองญี่ปุ่นเหนือ ต.สาลี อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ระยะทางยาว 18 กิโลเมตร โดยวางแผนดำเนินการให้แล้วเสร็จตลอดลำน้ำภายในเดือนธันวาคมนี้
สำหรับการดำเนินการในวันนี้ เป็นการดำเนินการระยะที่ 1 ดำเนินการบริเวณหน้าวัดทรงกระเทียม ระยะทาง 1.28 กิโลเมตร ซึ่งต้องขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งชาวบางปลาม้าและชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียง ที่ได้ร่วมแรงร่วมใจ ตลอดจนการสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรเครื่องมือต่างๆ เพื่อนำมาร่วมกันกำจัดผักตบชวาจนสามารถลดปริมาณความหนาแน่น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ รักษาคุณภาพน้ำในแหล่งน้ำ ช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับประชาชนในพื้นที่ และเป็นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในแหล่งน้ำด้วย ซึ่งความสำเร็จในวันนี้ รัฐบาลได้เตรียมขยายผลการดำเนินการในลำน้ำอื่นๆ เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้ร่วมกันดูแล บำรุงรักษาแม่น้ำคลองและแหล่งน้ำให้มีสภาพที่สมบูรณ์ต่อไป
ด้าน ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการ สทนช.กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยแล้ว รองนายกรัฐมนตรียังเป็นห่วงสถานการณ์ภัยแล้งที่อาจเกิดขึ้นด้วย เนื่องจากประเทศไทยยังอยู่ในสภาวะเอลนีโญ และกำลังจะเข้าสู่ฤดูแล้งในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ซึ่งในปีนี้ปริมาณน้ำต้นทุนมีน้อยกว่าปีที่ผ่านมา รองนายกรัฐมนตรีจึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานบูรณาการเร่งรัดขับเคลื่อนการดำเนินงานตามมาตรการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในช่วงฤดูแล้งอย่างเคร่งครัด และให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดภายใต้เงื่อนไขของสภาวะเอลนีโญ โดยเร่งจัดหาแหล่งน้ำต้นทุนสำรองสำหรับใช้อุปโภคบริโภคให้เพียงพอตลอดฤดูแล้ง ส่งเสริมให้เกิดการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ และการจ้างแรงงานให้กับประชาชน เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน พร้อมขับเคลื่อนการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และความเข้าใจเรื่องสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำให้กับภาคประชาชนได้รับทราบอย่างต่อเนื่องด้วย