วันที่ 14 ตุลาคม 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะ ลงพื้นที่ตรวจราชการและติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก พร้อมมอบสิ่งของช่วยเหลือประชาชน โดยมี ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วยนายวรพจน์ เพชรนรชาติ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 3 นายชำนาญ ชูเที่ยง ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพิษณุโลก และผู้เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่ พร้อมสรุปสถานการณ์น้ำและแนวทางในการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ ณ บึงตะเคร็ง อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก
สำหรับ “โครงการบางระกำโมเดล ” นั้น กรมชลประทานยังดำเนินโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อเพิ่มศักยภาพการกักเก็บน้ำ ในพื้นที่อำเภอบางระกำ อาทิ ระยะสั้น (แผนงานปี 2567)
1. ประตูระบายน้ำบ้านนิคมพัฒนา ต.นิคมพัฒนา อ.บางระกำ
2. เพิ่มประสิทธิภาพคลองคึกฤทธิ์-บึงตะเคร็ง ต.ท่านางงาม ต.บางระกำ อ.บางระกำ
3. เพิ่มประสิทธิภาพคลองส่งน้ำรอบบึงตะเคร็ง ต.บางระกำ อ.บางระกำ
4. เพิ่มประสิทธิภาพคลองตะโม่ ต.บางระกำ อ.บางระกำ
5. โครงการยกระดับคันกั้นน้ำ (สายบางระกำ-บางบ้า) ต.ชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ
ส่วนระยะกลาง (แผนงานปี 2568-2569)
1. พัฒนาและเสริมศักยภาพบึงตะเคร็งเป็นแหล่งท่องเที่ยว อ.บางระกำ
2. ประตูระบายน้ำบ้านหนองบัวนา ต.นิคมพัฒนา อ.บางระกำ
3. ประตูระบายน้ำบ้านทุ่งอ้ายโห้ ต.นิคมพัฒนา อ.บางระกำ
4. ประตูระบายน้ำหนองอ้อ ต.บึงกอก อ.บางระกำ
5. ระบบระบายน้ำวัดพรหมเกษร ต.ชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ
6. ประตูระบายน้ำบ้านพรสวรรค์ ต.นิคมพัฒนา อ.บางระกำ
7. ประตูระบายน้ำบ้านทุ่งใหญ่ ต.นิคมพัฒนา อ.บางระกำ
8. ประตูระบายน้ำคลองกรุงกรัก ต.บึงกอก อ.บางระกำ
9. ระบบระบายน้ำบ้านท่ามะเกลือ ต.นิคมพัฒนา อ.บางระกำ
10. ระบบระบายน้ำบ้านหนองไผ่ ต.นิคมพัฒนา อ.บางระกำ
1 1. ระบบระบายน้ำบ้านคลองพระรถ ต.พันเสา อ.บางระกำ
12. ระบบระบายน้ำบ้านคลองบึงแหง ต.วังอิทก อ.บางระกำ
ขณะที่ระยะยาว (แผนงานปี 2570-2573)
1. ปรับปรุงประตูระบายน้ำบ้านวังสะตือ อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย
2. เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำแม่น้ำยม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก
3. โครงการฟื้นฟูและขุดลอกแม่น้ำยม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก
ทั้งนี้ หากโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จ จะสามารถเพิ่มศักยภาพใช้เป็นพื้นที่หน่วงน้ำได้จากเดิม 400 ล้าน ลบ.ม. เป็น 550 ล้าน ลบ.ม. ช่วยลดผลกระทบจากอุทกภัยจากการขยายพื้นที่การดำเนินการจากเดิม 265,000 ไร่ เป็นพื้นที่ 382,000 ไร่ ประชาชนในพื้นที่โครงการสามารถใช้ชีวิตอยู่กับน้ำในช่วงการหน่วงน้ำได้อย่างมั่นคง และปลอดภัย ในการนี้ นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กรมชลประทานเร่งดำเนินการโครงการให้แล้วเสร็จโดนเร็วที่สุด เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของพี่น้องประชาชนต่อไป