รมว.เกษตรฯ ฝาก “ผู้นำในวันพรุ่งนี้” นำพาเกษตรกรให้พัฒนาไปข้างหน้า

  •  
  •  
  •  
  •  

รัฐมนตรีเกษตรฯ ฝากความหวังผู้เข้าอบรม “ผู้นำในวันพรุ่งนี้ (Leaders for Tomorrow)” จะนำพาเกษตรกรให้พัฒนาไปข้างหน้า สร้างความเข้มแข็งให้แก่ภาคการเกษตร และนำพาเกษตรกรให้หลุดพ้นจากความยากจนซ้ำซาก พร้อมฝากหลักสำคัญในการทำงาน ต้องแยกแยะให้ออกระหว่างผู้นำและเจ้านาย

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดโครงการฝึกอบรมหลักสูตร ผู้นำในวันพรุ่งนี้ (Leaders for Tomorrow) ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 21 – 31 สิงหาคม 2566 ให้แก่ข้าราชการประเภทอำนวยการสูง ในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเป็นผู้บริหารระดับต้น จำนวน 52 ราย ณ ส่วนราชการในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และศึกษาดูงานในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล

โครงการอบรมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเรียนรู้ประสบการณ์การเป็นผู้นำระดับสูงของหน่วยงาน ในการเข้าสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นต่อไป สามารถเชื่อมโยงบทบาทหน้าที่ของตนเอง สามารถขับเคลื่อนยุทธศาสตร์และงานนโยบายของรัฐ เสริมศักยภาพการดำเนินงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทั้งในปัจจุบันและอนาคตซึ่งมีผลกระทบต่อตนเอง ทีมงาน   และองค์กร ให้สามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยคาดหวังผลจากการฝึกอบรม คือ ผู้ผ่านการฝึกอบรมมีความพร้อมเพื่อขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นต่อไป

นายเฉลิมชัย  กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้มีการกำหนดกรอบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2560 – 2579) เพื่อเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย สิ่งเหล่านี้ต้องอาศัยข้าราชการที่จะร่วมมือกันในการทำงานและขับเคลื่อนนโยบายให้ก้าวไปข้างหน้า สิ่งสำคัญจึงเป็นการพัฒนาบุคลากรให้ก้าวทันเทคโนโลยีและนวัตกรรม อย่างไรก็ตาม การเป็นผู้นำจะมีโอกาสในการขับเคลื่อนและโอกาสในการทำงานมากกว่า โครงการนี้จึงจะเป็นประโยชน์ต่อผู้เข้าอบรมทุก ๆ ท่าน ที่จะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานให้ประสบความสำเร็จ

ทั้งนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหน่วยงานผู้รับผิดชอบหลักต่อเป้าหมายการสร้างความเข้มแข็งให้แก่ภาคเกษตรของประเทศ ต้องขับเคลื่อนการดำเนินงานเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่ภาคการเกษตร นำพาเกษตรกรให้หลุดพ้นจากความยากจนซ้ำซาก ซึ่งเกษตรกรมีความพร้อมที่แตกต่างกัน ข้าราชการจึงมีหน้าที่ที่ต้องนำพาเกษตรกรทุกกลุ่มให้พัฒนาไปข้างหน้า นอกจากนี้ สิ่งสำคัญคือการยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรให้ดียิ่งขึ้น พยายามปลูกจิตสำนึกทุกภาคส่วนโดยเฉพาะภาคธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จากภาคการเกษตร ให้หันมาใส่ใจภาคการเกษตรให้มากขึ้น เราจึงต้องใช้หัวใจในการทำงาน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

“สิ่งสำคัญที่ขอฝากไว้คือเมื่อเข้ามาเป็นผู้บริหาร สิ่งที่แยกแยะไม่ออกคือการเป็นผู้นำหรือเป็นเจ้านาย ซึ่งการเป็นผู้นำนั้นนอกจากจะได้งานที่มีคุณภาพแล้ว ยังได้หัวใจในการทำงานด้วย อย่างไรก็ตาม การทำงานให้ประสบความสำเร็จ ไม่สามารถทำงานด้วยตัวเองคนเดียวได้ เราจึงต้องมีการเชื่อมโยงการทำงานกับทุกภาคส่วน และขอขอบคุณการทำงานร่วมกันตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ซึ่งได้ยึดมั่นมาเสมอว่าการเป็นผู้นำต้องไม่สร้างภาระให้กับองค์กร และขอฝากความหวังให้ผู้เข้ารับการอบรมจะเติบโตก้าวหน้ามาเป็นผู้นำที่ดี สามารถขับเคลื่อนงานโดยยึดเกษตรกรเป็นที่ตั้ง มั่นใจว่าทุกท่านจะเป็นกำลังสำคัญในการทำให้ประเทศผ่านพ้นปัญหาอุปสรรคและสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรให้ดียิ่งขึ้นได้ต่อไป”  รมว.เกษตรฯ กล่าว