กรมชลฯ เล็งปรับระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่ม 1,500-1,800 ลบ.ม./วินาที ช่วง 23-25 ส.ค. 65 นี้

  •  
  •  
  •  
  •  

กรมชลประทาน ปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา รองรับน้ำเหนือไหลหลากที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เริ่มเลยวันนี้ (20 ส.ค.65) ในอัตรา 1,500 ลบ.ม./วินาที และในช่วงวันที่ 23 – 25 ส.ค. 65 ปรับการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในอัตรา 1,500 – 1,800 ลบ.ม./วินาที 

กรมชลประทานรายงานสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงค่ำวันที่19 สิงหาคม 2565 ที่สถานีวัดน้ำ C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีน้ำไหลผ่าน 1,478 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำยังต่ำกว่าตลิ่งประมาณ 4.58 เมตร ประกอบกับน้ำในแม่น้ำสะแกกรัง จ.อุทัยธานี และลำน้ำสาขาไหลลงมาสมทบกับแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยา มีแนวโน้มปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น

ดังนั้นกรมชลประทาน จำเป็นต้องทยอยปรับการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ไปจนถึงอัตรา 1,500 ลบ.ม./วินาที เริ่มตั้งแต่วันนี้ (20 ส.ค. 65) เวลา 06.00 น. เป็นต้นไป และในช่วงวันที่ 23 – 25 ส.ค. 65 ปรับการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในอัตรา 1,500 – 1,800 ลบ.ม./วินาที ส่งผลให้ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อชุมชนบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ ดังนี้ คลองโผงเผง จ.อ่างทอง,คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา, ที่ ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย)

อย่างไรก็ตาม กรมชลประทานจะบริหารจัดการน้ำและควบคุมปริมาณการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำฝน-น้ำท่า อย่างเต็มศักยภาพ โดยคำนึงถึงพื้นที่ลุ่มต่ำให้สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรเเล้วเสร็จ จึงขอให้ประชาชนเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด หากต้องการความช่วยเหลือ สามารถร้องขอไปยังสำนักงานชลประทานในพื้นที่หรือโทร 1460 สายด่วนกรมชลประทาน