กอนช. คาดการณ์ปริมาณฝนช่วงน้ำหลาก ยังต่ำกว่าค่าปกติ และแหล่งน้ำยังสามารถเก็บน้ำได้อีกจำนวนมาก เตรียมพร้อม 13 มาตรการรับมือฤดูฝนของรัฐบาล มั่นใจจะไม่ทำให้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมซ้ำรอยปี 2554 อย่างแน่นอน

          ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เปิดเผยถึงกรณีสภาพอากาศปรวนปรวน มีฝนตกหนักและอากาศหนาวเย็นในช่วงต้นเดือนเมษายน 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งคล้ายคลึงกับเมื่อปี 2554 จนทำให้หลายฝ่ายเกิดความกังวลเกี่ยวกับสถานกาณ์น้ำในช่วงฤดูฝนที่กำลังมาถึง อาจซ้ำรอยมหาอุทกภัยน้ำท่วมใหญ่ในปี 2554 ว่า  กอนช. ได้ติดตามสภาพภูมิอากาศอย่างต่อเนื่องพบว่า อากาศค่อนข้างแปรปรวนตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม.-มีนาคม 2565 มีปริมาณฝนตกมากกว่าค่าปกติ 107% เช่นเดียวกับปริมาณฝนในช่วงเดือนเมษายน 2565

           ขณะที่เดือนมิถุนายน 2565    ที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์ปริมาณฝนจะตกมากกว่าค่าปกติ ส่วนเดือนหน้าพฤษภาคม 2565 และช่วงเดือนกรกฎาคม -กันยายน 2565 ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดภาวะน้ำท่วมใหญ่ในปี 2554 คาดการณ์ปริมาณฝนจะตกน้อยกว่าค่าเฉลี่ยปกติ และน้อยกว่าปริมาณฝนที่ตกในปี 2554 อีกด้วย

       ส่วนปริมาณน้ำต้นทุนในแหล่งน้ำต่างๆ ทั่วประเทศ ช่วงต้นเดือนเมษายนปีนี้มีปริมาณ 58,525 ล้าน ลบ.ม. หรือ 62 % ของปริมาณการกักเก็บ สามารถรองรับน้ำหลากได้อีกถึง 28,000 ล้าน ลบ.ม. โดยเฉพาะในลุ่มน้ำที่สำคัญ ได้แก่ ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ลุ่มน้ำมูล และลุ่มน้ำชี รวมถึงแหล่งน้ำธรรมชาติที่มีการเตรียมการขุดลอกเพื่อรองรับน้ำหลาก และแหล่งน้ำที่มีการพัฒนาเพิ่มเติมในช่วงปี 2563-64    ที่ได้รับการสนับสนุนงบกลางจากรัฐบาลที่กระจายอยู่ทั่วประเทศกว่า 2.6 หมื่นแห่ง

        ตรงนี้ถือเป็นอีกส่วนสำคัญที่จะเข้ามาช่วยเก็บกักน้ำฝนชะลอน้ำหลากได้อีกส่วนหนึ่งด้วยเช่นกัน ดังนั้น หากพิจารณาจากปริมาณฝนที่จะตก และขีดความสามารถในการกักเก็บน้ำของแหล่งน้ำที่มีอยู่แล้ว สถานการณ์น้ำในปีนี้จะไม่ซ้ำรอยหรือเกิดวิกฤตเหมือนปี 2554 อย่างแน่นอน

         อย่างำรก็ตามเพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับมือสภาพอากาศที่แปรปรวน คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ที่มี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้นำบทเรียนจากฤดูฝนปีที่ผ่านมา มาปรับปรุงแนวทางการบริหารจัดการน้ำให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมได้เห็นชอบ 13 มาตรการรับมือฤดูฝนปี 2565   และเตรียมนำเสนอคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ ประกอบด้วย 10 มาตรการเดิมที่ดำเนินการในปี 2564 และได้เพิ่มเติมอีก  3 มาตรการจากที่ได้มีการทบทวนบทเรียนเพื่อปิดช่องโหว่ในการบริหารจัดการน้ำให้มีประสิทธิภาพ