พิษจากพายุ “โมลาเบ” ทำให้ฝนตกหนักบริเวณเขาใหญ่ มีน้ำไหลเข้าเขื่อนลำพระเพลิงเป็นจำนวนมาก ปัจจุบันมีปริมาณน้ำน 108 % ของความจุอ่างฯ แถมมีน้ำไหลเข้าอ่างฯ ประมาณ 3.88 ล้าน ลบ.ม.มีแนวโน้มสูงขึ้น กรมชลประทานเตือนประชาชน ห้างร้าน ที่อยู่ริมตลิ่งท้ายอีกครั้ง ให้ขนของขึ้นที่สูง เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
นายสัญญา แสงพุ่มพงษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ทาง ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความห่วงใยเกษตรกร และประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ได้สั่งการผ่าน ดร.ทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ติดตามแนวทางการให้ความช่วยเกษตรกรอย่างทั่วถึง ตลอดจนวางแผนการบริหารจัดการน้ำ โดยการผันน้ำส่วนเกินไปเก็บกักตามแหล่งน้ำต่างๆ ให้เพียงพอสำหรับทุกกิจกรรมในช่วงฤดูแล้งหน้า
นอกจากนี้ให้กำหนดผู้รับผิดชอบ กำหนดพื้นที่เสี่ยง กำหนดทรัพยากรเครื่องจักรเครื่องมือ พร้อมปฏิบัติงานตลอด24ชั่วโมง โดยเน้นย้ำให้ตรวจสอบความมั่นคงของอาคารชลประทานต่างๆ ให้พร้อมใช้งานได้อย่างเต็มศักยภาพ โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำเกินกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ พร้อมบริหารจัดการน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด พิจารณาปรับการระบายน้ำให้เหมาะสมกับพื้นที่สอดคล้องกับสภาพอากาศและปริมาณน้ำไหลที่เข้าเขื่อน ควบคู่ไปกับการเก็บกัก โดยผันเข้าพื้นที่แก้มลิงเป็นต้น
ด้าน ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากอิทธิพลของพายุ “โมลาเบ” ทำให้เกิดฝนตกหนักบริเวณเขาใหญ่อีกครั้ง วัดปริมาณฝนได้มากกว่า 100 มิลลิเมตร ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนลำพระเพลิงเป็นจำนวนมาก ปัจจุบันมีปริมาณน้ำประมาณ 168.63 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 108 % ของความจุอ่างฯ มีน้ำไหลเข้าอ่างฯ ประมาณ 3.88 ล้าน ลบ.ม. และยังคงมีแนวโน้มสูงขึ้น โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำพระเพลิง ได้ทำการระบายน้ำผ่านคลองธรรมชาติ และ Spillway รวมประมาณ 102 ลบ.ม./วินาที หรือ 8.81 ล้าน ลบ.ม./วัน พร้อมแจ้งเตือนประชาชนด้านท้ายเขื่อนรับมือกับสถานการณ์แล้ว
ดังนั้นขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำด้านท้ายเขื่อนลำพระเพลิง ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ได้ประสานไปยังหน่วยงานท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องแจ้งเตือนให้ประชาชน ห้างร้าน ที่อยู่ริมตลิ่งให้ขนของขึ้นที่สูง เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น และขอให้รับฟังข่าวสารจากทางราชการเท่านั้น หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือหรือมีข้อสงสัย สามารถสอบถามได้ที่หมายเลขสายด่วนกรมชลประทาน 1460 ได้ตลอดเวลา