2 เขื่อนใหญ่ยังวิกฤต “ภูมิพล” น้ำใช้ได้ 1% “สิริกิติ์” 6 % เร่งกักน้ำให้มากที่สุด ปรับลดการระบายวันละ 3 ล้าน ลบ.ม.

  •  
  •  
  •  
  •  

                                                              สำเริง  แสงภู่วงค์

กอนช.ส่งสัญญาณน้ำฝนเริ่มไหลลงอ่างเก็บน้ำเพิ่มขึ้น ระบุ 2  เขื่อนใหญ่ “ภูมิพล-สิริกิติ์” ยังวิกฤต น้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพลใช้ได้จริงเพียง 1 % สิริกิตติ์น้ำใช้ได้ 6% เผยทั้ง 2 เขื่อนเร่งเก็บกักน้ำให้มากที่ พร้อมปรับลดการระบายน้ำรวม 3 ล้านลบ.ม. ขณะที่มวลน้ำลุ่มน้ำป่าสักทยอยไหลลงเขื่อนป่าสักฯ เพิ่มขึ้น จนสู่สภาพปกติแล้ว

    นายสำเริง  แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ในฐานะเลขานุการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เปิดเผยสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศในวันนี้ (21 ก.ค.63) ว่า กอนช.ได้มีการวิเคราะห์ติดตามสภาพอากาศ และปริมาณฝนในสัปดาห์นี้ พบว่า ฝนจะเพิ่มขึ้นและกระจายตัวทั่วประเทศในช่วงวันที่ 21 – 22  ก.ค.63 และจะเริ่มลดลงในวันที่ 23- 24 ก.ค.63 ก่อนจะเพิ่มขึ้นอีกครั้งในช่วงวันที่ 25 – 26 ก.ค.นี้ ซึ่งจะส่งผลดีต่อปริมาณน้ำในแม่น้ำ ลำน้ำ แหล่งน้ำต่าง ๆ รวมถึงเขื่อนที่เริ่มมีปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ เพิ่มขึ้น  เห็นได้ชัดเจนจากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีฝนตกเพิ่มขึ้นในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนบนและตอนล่าง ทำให้มีปริมาณน้ำท่าเพิ่มขึ้นและระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาก็เพิ่มขึ้นด้วย ส่งผลให้สถานการณ์ในแม่น้ำเจ้าพระยาดีขึ้นโดยลำดับ

     ดังนั้น เพื่อให้เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำดังกล่าว และเร่งเก็บกักน้ำต้นทุนให้มากที่สุด กรมชลประทานและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) คณะทำงานภายใต้ กอนช. ได้พิจารณาปรับลดการระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพล จ.ตาก ในช่วงวันที่ 22 – 28 ก.ค.63 ลงวันละ 1 ล้าน ลบ.ม.จากอัตราเฉลี่ยวันละ 5 ล้าน ลบ.ม.เหลืออัตราเฉลี่ยวันละ 4 ล้าน ลบ.ม. โดยปริมาณน้ำในเขื่อนภูมิพลปัจจุบันมีทั้งสิ้น 3,911 ล้าน ลบ.ม. หรือ 29% เป็นปริมาณน้ำใช้ได้การ 111 ล้าน ลบ.ม. หรือ 1% ในช่วงวันที่ 15 – 21 ก.ค.มีปริมาณน้ำลงเขื่อนฯ แล้ว 10 ล้าน ลบ.ม.  และคาดว่าในช่วงวันที่ 22  – 24 ก.ค.63  ประมาณน้ำจะเพิ่มขึ้นอีก 4 ล้าน ลบ.ม.

      ขณะที่เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ ปริมาณน้ำปัจจุบันมี 3,262 ล้าน ลบ.ม. หรือ 34% เป็นน้ำใช้การได้ 412 ล้าน ลบ.ม. หรือ 6% ซึ่งคาดการณ์ว่าสถานการณ์ฝนจะส่งผลทำให้น้ำไหลเข้าเขื่อนสิริกิติ์มากขึ้นในช่วงวันที่ 22  – 24 ก.ค.63  ปริมาณน้ำจะเพิ่มขึ้นอีก 37 ล้าน ลบ.ม. จากเมื่อช่วงที่ผ่านมาวันที่ 15 – 21 ก.ค. 63 มีปริมาณน้ำลงเขื่อนฯ แล้ว 84 ล้าน ลบ.ม.ดังนั้น กอนช.ได้แจ้ง กฟผ.ปรับลดการระบายน้ำจากเขื่อนสิริกิติ์ในช่วงวันที่ 22 – 26 ก.ค.63 ลงวันละ 2 ล้าน ลบ.ม. จากอัตราเฉลี่ยวันละ 14 ล้าน ลบ.ม.เหลืออัตราเฉลี่ยวันละ 12 ล้าน ลบ.ม.

          อย่างไรก็ตาม เนื่องจากยังคงมีแนวโน้มปริมาณฝนจะตกในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนบนและตอนล่าง ทำให้มีปริมาณน้ำท่าเพิ่มขึ้น และระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาก็เพิ่มขึ้นด้วย กอนช.จึงได้มอบหมายให้หน่วยงานในพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำเพื่อแจ้งเตือนประชาชนเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำหลากในพื้นที่ราบเชิงเขา และพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำได้

          นายสำเริง กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ขณะที่สถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ต้นน้ำลุ่มน้ำป่าสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ตั้งแต่วันที่ 15 – 16 กรกฎาคม 2563 ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเอ่อล้นท่วมที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำป่าสัก   อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งปัจจุบันระดับน้ำแม่น้ำป่าสัก ที่ อำเภอหล่มสัก กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว โดยมวลน้ำก้อนดังกล่าวได้เริ่มลงสู่เขื่อนป่าสักฯ จ.ลพบุรี ซึ่งปัจจุบันมีปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ แล้ว 0.16 ล้าน ลบ.ม. และคาดกว่าในวันที่ 22 – 24 ก.ค. 63 จะมีปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ อีกประมาณ 1 ล้าน ลบ.ม. แต่ยังคงต้องติดตามสถานการณ์ฝนต่อเนื่อง จากการคาดการณ์ฝนมีแนวโน้มตกเพิ่มขึ้นในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ด้วย