ตามไปดูแจกฟรี แอลกอฮอล์ “น้าสน” พบจะจะ ผู้อำนวยการ รพ.สต.คูคต ดีใจสุดๆที่ได้แจกให้ผู้เดือดร้อน

  •  
  •  
  •  
  •  

     “เรารู้สึกดีใจและตื่นเต้นมากที่จะได้นำไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่กำลังได้รับความเดือดร้อนจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในช่วงนี้ และได้ประสานงานกับทาง อสม. ที่มีอยู่ประมาณ 35 คนนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชน เพราะจะมีข้อมูลความเดือดร้อนของประชาชนในชุมชนต่างๆ อยู่แล้ว”

    เวลาผ่านไปกว่า 1 สัปดาห์แล้ว สำหรับการแจกจ่ายแอลกอฮอล์ 70% ที่ใช้สำหรับทำความสะอาดมือ และพื้นผิวทั่วไป เพื่อสู้ภัยโควิด -19  ตามนโยบายของ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่ได้ส่งมอบให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล มาตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน 2563 เป้าหมาย 9,863 แห่งทั่วประเทศ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโควิด-19 ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว พบว่าแอลกอฮอล์ภายใต้โครงการนี้ทะยอมไปถึงเป้าหมายแล้ว

บุบผา เอี่ยมเอิบ

     ล่าสุดได้ลงพื้นที่เพื่อเกกาะตืดการแจกแอลกอฮอล์สู้ภัยโควิด-19 ตามโครงการนี้กระจายถึงพื้นที่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนแล้วหรือไม่ เริ่มจากใกล้กรุงเทพฯก่อน  ตะลุยไปสำรวจเขต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พบว่า ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.)คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ได้รับการยืนยันจาก นางบุบผา เอี่ยมเอิบ  รักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลคูคต ได้รับแอลกอฮอล์ที่ทางกระทรวงพลังงานส่งมาแล้วจำนวน 2 ถังๆ ละ 20 ลิตร และได้รับแจ้งจากทางจังหวัดว่า จะมีทยอยส่งเพิ่มเติมมาให้อีก

     “เรารู้สึกดีใจและตื่นเต้นมากที่จะได้นำไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่กำลังได้รับความเดือดร้อนจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในช่วงนี้ และได้ประสานงานกับทาง อสม. ที่มีอยู่ประมาณ 35 คนนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชน เพราะจะมีข้อมูลความเดือดร้อนของประชาชนในชุมชนต่างๆ อยู่แล้ว” นางบุบผา กล่าวด้วยความดีใจ

     ทั้งนี้ กลุ่มเป้าหมายที่คิดว่าจะนำแอลกอฮอล์ไปแจกน่าจะเป็นคนที่ดูแลผู้ป่วย เพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิดเมื่อมีการสัมผัสกัน และกลุ่มผู้สูงอายุในพื้นที่ที่มีอยู่จำนวน 1,400-1,500 คน อย่างไรก็ตาม ถ้ามีประชาชนที่เดินทางผ่านไปมาแถวนี้ได้รับความเดือดร้อนเข้ามาขอแอลกอฮอล์เราก็จะจัดให้ เพราะ รพ.สต.คูคตเราตั้งอยู่ติดกับถนนหลัก เรายึดหลักว่าทุกคนที่เดือดร้อนถ้าช่วยได้เราก็จะช่วยไม่ว่าจะเป็นวินมอเตอร์ไซด์ พ่อค้าแม่ค้า ถือว่ามีความเสี่ยงหมดทุกคน

    “เมื่อก่อนมีผู้สูงอายุป่วยเป็นเบาหวาน หาซื้อแอลกอฮอล์ที่ไหนไม่ได้ ก็มาขอกับทางโรงพยาบาลเราก็ช่วยเหลือมอบให้ 100 มิลลิลิตร เมื่อมีแอลกอฮอล์จากกระทรวงพลังงานส่งมาให้แบบนี้ก็จะช่วยเหลือคนเดือดร้อนได้เยอะ เป็นเรื่องที่ดีมากๆ เลย เพราะหาซื้อยากมาก เราจะแจกจ่ายให้ทั่วถึงให้มากที่สุด ต้องขอขอบคุณกระทรวงพลังงาน กฟผ. และ ปตท. ที่มอบแอลกอฮอล์มาบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19” เธอ กล่าว 

    รักษาการ ผอ.โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลคูคต  กล่าวอีกว่า ตอนนี้มีปัญหาตรงที่ รพ. สต. คูคตไม่มีภาชนะบรรจุแอลกอฮอล์เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชน ซึ่งน่าจะใช้วิธีแจ้งให้ประชาชนที่ต้องการแอลกอฮอล์ให้นำขวดที่แข็งแรงและปลอดภัยมาด้วย เพื่อเป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน

     เช่นเดียวกันกับนางศิริกัณฑ์ พิริยายน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี บอกว่า  ได้รับแอลกอฮอล์จากทางอำเภอลำลูกกาจัดให้จำนวน 2 ถังๆ ละ 20 ลิตร เมื่อวันที่ 24 เมษายน ที่ผ่านมา แต่ไม่เพียงพอที่จะแจกจ่ายให้ประชาชนในพื้นที่ และตอนนี้ต้องการขวดขนาด 50 มิลลิลิตรจำนวนมาก

    ทั้งนี้เพื่อนำมาบรรจุแอลกอฮอล์นำไปแจกจ่ายประชาชน ซึ่งทาง อสม. ได้สำรวจผู้ที่มีความเดือดร้อนต้องการความช่วยเหลือตรงนี้ไว้แล้ว ต่อไปจะได้ลงพื้นที่นำไปมอบให้กับประชาชนที่กำลังเดือดร้อน มีบางครอบครัวไม่สามารถออกมาข้างนอกได้ก็จะนำข้าวสาร อาหารแห้ง สิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันไปช่วยเหลือด้วย รวมถึงการพ่นยาฆ่าเชื้อไวรัสโควิดก็จะทำไปพร้อมๆ กันด้วย

       “ในพื้นที่ตำบลลาดสวายมีผู้สูงวัย 6,000 คน มีผู้ป่วยติดเตียง 2,000 คน ทาง อสม. ได้ลงพื้นที่สำรวจเลือกผู้ที่มีความเดือดร้อนเพื่อนำแอลกอฮอล์ รวมถึงสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันไปช่วยเหลือ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนช่วงที่กำลังลำบากแบบนี้” นางศิริกัณฑ์ กล่าว

สำหรับโครงการการแจกจ่ายแอลกอฮอล์ 70% ที่ใช้สำหรับทำความสะอาดมือ และพื้นผิวทั่วไป เพื่อสู้ภัยโควิด -19  เป็นตามนโยบายของ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่ร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ ซึ่งเป็นหน่วยงานในกำกับของกระทรวงพลังงาน เพื่อจัดหาแอลกอฮอลจำนวน 2.4 ล้านลิตรส่งมอบให้โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เป้าหมาย 9,863 แห่งทั่วประเทศ ที่ได้เริ่มแจกเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา และใช้เวลาส่งมอบทั้งหมดภายในเวลา 1 เดือนตามที่เป็นข่าวก่อนหน้านี้