สทนช. ลงนามบันทึกความเข้าใจฯ กับ GISTDA บูรณาการองค์ความรู้ ร่วมมือศึกษา ออกแบบ ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ ผลักดันการพัฒนานวัตกรรมในด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและโครงการด้านน้ำของประเทศอย่างยั่งยืน
วันที่ 29 มกราคม 2563 ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และ ดร. อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยการใช้เทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศเพื่อพัฒนานวัตกรรมในด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและโครงการด้านน้ำของประเทศ ณ ห้องประชุมกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ชั้น 4 สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ อาคารจุฑามาศ ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพฯ
ดร. สมเกียรติ เปิดเผยว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาในด้านต่าง ๆ รวมไปถึงด้านการบริหารจัดกรทรัพยากรน้ำด้วย สทนช. และ GISTDA เล็งเห็นถึงความสำคัญในเรื่องนี้ จึงได้มีความคิดตรงกันที่จะร่วมกันบูรณาการความร่วมมือในการศึกษา ออกแบบ และประยุกต์ใช้เทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ ในการวางแผนการบริหารจัดการด้านน้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการวางระบบบริหารจัดการน้ำ ให้สอดคล้องตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580) อีกทั้งยังจะร่วมกันศึกษาออกแบบ วิเคราะห์และพัฒนาแนวทางในการจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในรูปแบบใหม่ ๆ ด้วยเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ ที่มุ่งเน้นการตอบโจทย์บนพื้นฐานการใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ (Evidence-Based) พัฒนาแบบจำลองการวิเคราะห์ข้อมูล การประเมินผลข้อมูล (Data Analytics and Evaluation) การจำลองเหตุการณ์ในอนาคต (Simulation) รวมถึงการกำหนดนโยบาย โดยสร้างการมีส่วนร่วม และคำนึงถึงมุมมองจากภาคส่วนต่าง ๆ (Co-Creation) ไปจนถึงการดำเนินงานอื่น ๆ
ทั้งนี้เพื่อบูรณาการองค์ความรู้ และร่วมกันใช้ศักยภาพของเทคโนโลยีในการพัฒนาทั้งนวัตกรรมในการกำหนดนโยบาย (Policy Innovation) และ/หรือ นวัตกรรมทางยุทธศาสตร์ (Strategy Innovation) ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ และสอดคล้องกับแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี โดยมุ่งหวังว่าการพัฒนาจากความร่วมมือในครั้งนี้ จะสามารถก่อให้เกิดการป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านน้ำต่าง ๆ ทั้งในปัจจุบันและอนาคตอย่างยั่งยืน
ด้าน ดร. อานนท์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การลงนาม MOU ในวันนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมระหว่าง 2 หน่วยงาน ในการนำองค์ความรู้ของทั้งสองฝ่ายในด้านเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศและด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศ มาประยุกต์ใช้ในการวางแผนการบริหารจัดการโครงการด้านน้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการวางระบบบริหารจัดการน้ำของประเทศ ซึ่งต่อไปนี้ ภารกิจหลักของ GISTDA จะเป็นรูปแบบของการขับเคลื่อนเชิงนโยบายมากขึ้น โดยได้มีโครงการความร่วมมือกับบริษัทแอร์บัส จากประเทศฝรั่งเศส ออกแบบและพัฒนาแพลตฟอร์มกำหนดนโยบายแบบอัจฉริยะ หรือ AIP (Actionable Intelligence Policy) ซึ่งจะเป็นเครื่องมือที่ทุกหน่วยงานสามารถเข้าถึง และมีส่วนร่วมในการนำไปปรับเพื่อตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาของประเทศได้อย่างชาญฉลาด ส่งผลให้เกิดการพัฒนาโดยใช้เทคโนโลยีที่มีศักยภาพและเกิดประโยชน์อย่างสูงสุด.