“น้าสน”ผุดไอเดียใช้พลังงานแสงอาทิตย์ดูดน้ำบาดาลแก้ภัยแล้ง

  •  
  •  
  •  
  •  

                                                                       สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์

น้าสน “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” ฟิตจัดเรียกประชุม ส.ส.ภาคตะวันตก ถกรับมือภัยแล้ง พร้อมเตรียมเสนอภาพใหญ่ดันเป็น “วาระแห่งชาติ” แก้ไขปัญหาน้ำแล้ง น้ำท่วม เบื้องต้นปิ๊งไอเดียปรับปรุงบ่อบาดาล ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ดูดน้ำขั้นมาช่วยบรรเทาภัยแล้ง และขอให้ผันน้ำจากเขื่อนภาคตะวันตกเพิ่มเติมเพื่อไล่น้ำเค็มด้วย

     นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ และ ได้ประชุม ส.ส.ในพรรคพลังประชารัฐภาคตะวันตก เพื่อหารือถึงแนวทางการแก้ปัญหาภัยแล้งทั่วประเทศ ปัญหาน้ำทะเลหนุนสูงส่งผลกระทบต่อน้ำเจ้าพระยาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พร้อมกับกำหนดวาระการประชุมสัปดาห์หน้าจะหารือปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ที่เกินค่ามาตรฐานด้วย  ซึ่งจะเชิญผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล โดยมีนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เข้าร่วมประชุมด้วย

         นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า การประชุม ส.ส.ภาคตะวันตกของพรรค เพื่อหารือเพื่อหารือถึงแนวทางการแก้ปัญหาภัยแล้งที่ประเทศไทยกำลังประสบอยู่ รวมถึงปัญหาน้ำทะเลหนุนสูง ซึ่งที่ประชุมมีแนวคิดว่า จะนำน้ำจากภาคตะวันตกมาช่วยเสริม และผลักดันน้ำเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจากน้ำจากเขื่อนภาคตะวันตกมีปริมาณเพียงพอ และจะต้องไปดูต้นน้ำภาคตะวันตกในอนาคตด้วย เช่นเดียวกับกับแก้ปัญหาภัยแล้งทั่วประเทศจะต้องการบูรณาภาพรวมทั้งของประเทศทั้งภาคเหนือ และภาคอีสาน ต่อไปขั้นตอนการทำงานจะยึดโยงกับส.ส.ในพื้นที่ และพี่น้องประชาชน ซึ่งจะมีการนำเสนอเป็นภาพใหญ่ต่อรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหาทั้งระบบต่อไป

      “กระทรวงพลังงานได้ขยายแนวคิดของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้มีการขุดบ่อน้ำแก้ภัยแล้ง โดยกระทรวงพลังงานได้ร่วมมือกระทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงมหาดไทย ปรับปรุงบ่อบาดาลที่มีอยู่ให้กลับมาใช้ประโยชน์ได้สูงสุด โดยกระทรวงพลังงานได้สนับสนุนเครื่องสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ ผมเองได้เร่งรัดโครงการที่ทำไว้แล้วในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา เพื่อนำมาปรับปรุงให้ใช้การสามารถสูบน้ำได้ รวมทั้งเร่งรัดโครงการที่จะติดตั้งในปี 2563 แก้ปัญหาภัยแล้งทั่วประเทศในการดึงน้ำบาดาลขึ้นมาแก้ปัญหาระยะสั้น” นายสนธิรัตน์ กล่าว

     รมว.กระทรวงพลังงาน กล่าวอีกว่า ตอนนี้ได้ปรับปรุงบ่อน้ำบาดาลสูบน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ให้กลับมาใช้ได้แล้ว ต่อไปจะมีการเร่งรัด และสำรวจเพื่อนำโครงการใหม่ๆ มาทาบกับพื้นที่ประสบภัยแล้งรุนแรง เพื่อจะได้เพิ่มเติมโครงการลงไปอีกในปีนี้

      ด้าน พล.อ.สมชาย วิษณุวงศ์ ส.ส.กาญจนบุรี พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ภาคตะวันตกสามารถสนับสนุนน้ำจากเขื่อนศรีนครินทร์ เขื่อนวชิราลงกรณ์ ผ่านไปยังเขื่อนแม่กลอง ไปยังจังหวัดนครปฐม เพื่อช่วยวิกฤตภัยแล้งของประเทศได้ โดยชาวจังหวัดกาญจนบุรี และราชบุรี พร้อมเสียสละนำน้ำในพื้นที่มาช่วยแก้ปัญหา รวมถึงผลักดันน้ำทะเลที่หนุนสูงในแม่น้ำเจ้าพระยาทำให้เกิดน้ำเค็ม ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลได้ดำเนินการผันน้ำจากภาคตะวันตกอยู่แล้วประมาณ 500 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี แต่ต่อไปต้องเพิ่มปริมาณน้ำให้มากขึ้นในช่วงเกิดวิกฤติภัยแล้ง

     “ตอนนี้น้ำในเขื่อนภาคตะวันตกมีอยู่ปริมาณ 11,000 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี มีเหลือบ้าง เราจะผลักดันน้ำออกมา ซึ่งพี่น้องประชาชนภาคตะวันตกก็ยินดี แต่โอกาสข้างหน้าขอให้รัฐบาลกำหนดแผนการพัฒนาการเกิดแหล่งต้นน้ำให้มากขึ้น เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ในพื้นที่ และให้ความช่วยเหลือจากในโอกาสต่อไป” พล.อ.สมชาย กล่าว

    ขณะที่ น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ภัยแล้งปีนี้น่าจะเป็นวิกฤติการณ์มากที่สุด พรรคพลังประชารัฐจะหยิบยกปัญหาภัยแล้งขึ้นมาเป็นวาระไม่ใช่ปัญหาแบบปีต่อปี เพราะเป็นที่ทราบว่าประเทศมีปัญหาเรื่องน้ำทุกปี ไม่ท่วมก็แล้ง แต่ละปีทำให้ประเทศสูญเสียงบประมาณเพื่อนำไปเยี่ยวยาเฉลี่ยปีละ 1 หมื่นล้านบาท ดังนั้น พรรคพลังประชารัฐ จึงมองว่า การแก้ปัญหาน้ำทั้งหมดจะต้องถูกนำไปแก้ปัญหาระยะยาว เป็นที่วาระหลักของประเทศ เป็นการทำงานของพรรคร่วมกับ ส.ส. ทั่วทุกภาคของประเทศ ประสานกับรัฐมนตรี ร่วมกันผลักดันทำงาน เสนอแนวทางการแก้ปัญหาที่ยั่งยืน ระยะยาว เพื่อแก้ปัญหาเป็นวาระหลักของพรรค และของประเทศต่อไป