กรมชลฯยันต้องปิดเขื่อนทดน้ำคลองนาที่แปดริ้ว เหตุน้ำน้อย-น้ำเค็มทะลัก

  •  
  •  
  •  
  •  

                                                 ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล

กรมชลฯ ชี้แจงกรณีปิดเขื่อนทดน้ำชลประทานบ้านโพธิ์ (คลองนา) ที่แปดริ้ว เพราะน้ำมีน้อย น้ำเค็มจากแม่น้ำบางปะกงทะลัก เกรงจะสร้างความเสียหายต่อพื้นที่การเกษตร และน้ำใช้อุปโภคบริโภค ประสานผู้นำท้องถิ่นรณรงค์จะให้ทิ้งขยะลงคลอง จะทำให้น้ำเสีย

          จากกรณีที่ชาวบ้านหมู่ 1 และหมู่ 2 ตำบลบ้านโพธิ์ อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา ร้องเรียนว่าเขื่อนทดน้ำชลประทานบ้านโพธิ์ (คลองนา) ไม่เปิดประตูระบายน้ำมาเป็นปี ส่งผลให้น้ำเน่า สีดำกลิ่นเหม็น ไม่สามารถใช้ทำนา และเลี้ยงปลาได้ ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมคลองกว่า 100 หลังคาเรือน เดือดร้อนหนัก ร้องขอให้ชลประทานเปิดประตูระบายน้ำเพื่อไล่น้ำเสียออกไป นั้น

 

         ล่าสุด ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน ชี้แจงว่า ประตูระบายน้ำคลองนา เป็นประตูระบายน้ำที่เชื่อมต่อระหว่างคลองนากับแม่น้ำบางปะกง ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2561 ถึงช่วงต้นเดือน กรกฎาคม 2562 ไม่มีการเปิดประตูระบายน้ำคลองนา เนื่องจากเป็นช่วงที่แม่น้ำบางปะกงมีน้ำเค็มรุกล้ำเข้ามา ทำให้แม่น้ำบางปะกงมีค่าความเค็มมากกว่า 1 กรัมต่อลิตร ซึ่งไม่เหมาะต่อการทำการเกษตร และการผลิตประปา

         อย่างไรก็ตาม โครงการชลประทานฉะเชิงเทรา ได้ดำเนินการป้องกันน้ำเค็มไม่ให้รุกล้ำเข้าไปในคลองธรรมชาติ โดยการสร้างทำนบดินปิดกั้นน้ำเค็มชั่วคราว เพื่อรักษาน้ำจืดไว้ใช้ ส่วนในช่วงเดือนกรกฎาคม ไปจนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงฤดูฝน ค่าความเค็มในแม่น้ำบางปะกงจะลดต่ำลง โดยปกติทางโครงการชลประทานฉะเชิงเทรา จะทำการรื้อทำนบป้องกันน้ำเค็มชั่วคราวออก พร้อมกับเปิดประตูระบายน้ำคลองนา เพื่อรับน้ำเข้า-ออก ตามแผนการบริหารจัดการน้ำที่ดำเนินการอยู่แล้วในภาวะปกติ

      แต่เนื่องจากปีนี้ในช่วงฤดูฝนที่ผ่านมา มีปริมาณฝนตกในพื้นที่ต่ำกว่าค่าปกติ ทำให้ระดับน้ำในคลองนาและคลองธรรมชาติ ต่างๆอยู่ในเกณฑ์น้อย อีกทั้งระดับน้ำยังอยู่ต่ำกว่าแม่น้ำบางปะกงที่มีค่าความเค็มสูง จึงไม่สามารถเปิดรับน้ำเข้าในพื้นที่ได้ ประกอบกับมีการปล่อยน้ำจากบ่อปลาและนาข้าวลงคลองธรรมชาติ จนส่งผลให้เกิดน้ำเน่าเสียดังกล่าว

       เบื้องต้นได้ขอความร่วมมือไปยังหัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ให้เร่งประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจถึงสถานการณ์น้ำ รวมทั้งขอความร่วมมือราษฎร ไม่ให้ทิ้งขยะและสิ่งปฏิกูลลงในลำคลองสาธารณะ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดน้ำเน่าเสียมากไปกว่านี้ พร้อมกันนี้ ได้ประสานกับหน่วยงานท้องถิ่นร่วมกันเร่งกำจัดวัชพืชในลำคลองต่างๆโดยเร็วด้วย