กรมชลประทาน เผยว่าปริมาณเหนือทะลัก ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำสายต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ระบุเฉพาะแม่น้ำเจ้าพระยาน้ำผ่านสถานีวัดน้ำ C.2 จังหวัดนครสวรรค์ 1,037 ลบ.ม./วินาที ยืนันยังไม่กระทบท้ายเขื่อน ชี้หากจำเป็นต่องระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 700 ลบ.ม./วินาที อาจจะกระทบบริเวณจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะแจ้งเตือนให้ประชาชนทราบต่อไป
ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากปริมาณฝนที่ตกหนักในบริเวณภาคเหนือของประเทศไทย ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำสายต่างๆ เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะแม่น้ำเจ้าพระยา ที่สถานีวัดน้ำ C.2 อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ปัจจุบันมีปริมาณน้ำไหลผ่านประมาณ 1,037 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที(ลบ.ม./วินาที) และปริมาณน้ำนี้จะไหลลงสู่บริเวณหน้าเขื่อนเจ้าพระยาในลำดับต่อไป
กรมชลประทานได้วางแผนบริหารจัดการน้ำ โดยใช้ระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา รับน้ำเขาไปในอัตรารวมกันประมาณ 466 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ตามศักยภาพของคลองที่จะสามารถรับได้ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ริมคลอง พร้อมกันนี้ ได้ควบคุมปริมาณน้ำให้ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในเกณฑ์ประมาณ 550 ลบ.ม./วินาที ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายเขื่อนฯ แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม หากมีแนวโน้มที่จะต้องทำการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในเกณฑ์ประมาณ 700 ลบ.ม./วินาที กรมชลประทาน จะแจ้งเตือนให้ประชาชนที่อยู่ด้านท้ายของแม่น้ำน้อย บริเวณจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่อาจจะได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำดังกล่าวให้รับทราบล่วงหน้าต่อไป
ทั้งนี้ กรมชลประทาน ขอให้ประชาชนคอยรับฟังข่าวสารจากทางราชการเท่านั้น และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายทั้งในพื้นที่ชุมชน พื้นที่การเกษตร หากต้องการความช่วยเหลือให้ติดต่อโครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือ โทร 1460 สายด่วนกรมชลประทาน