กรมปศุสัตว์บุกช่วยชีวิต 13 สุนัข “เกรทเดน” พบสุดอนาถ ผมโซ ขาดสารอาหารอย่างรุนแรง

  •  
  •  
  •  
  •  

เจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ บุกช่วยชีวิต 13 สุนัขพันธุ์ “เกรทเดน” ในบ้านหลังหนึ่งที่ ต.ลาดหลุมแก้ว อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี หลังได้รับข้อร้องเรียนผ่านแอพพลิเคชั่น “DLD 4.0” ว่า ได้พบสุนัขพันธุ์เกรทถูกกักไว้ ไม่มีใครให้อาหาร เจ้าหน้าที่พบภาพอนาถยิ่งนัก หมาทุกตัวอยูในสภาพที่ผอมโซ และขาดสารอาหารอย่างรุนแรง ล่าสุดนไไปฟื้นฟูสภาพร่างกาย ณ สถานพยาบาลสัตว์ ของกองสวัสดิภาพสัตว์และสัตวแพทย์บริการ กรมปศุสัตว์แล้ว  พร้อมร้องทุกข์กล่าวโทษต่อเจ้าของ ข้อหาทารุณกรรมสัตว์ตามพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557

        นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า กรมปศุสัตว์ได้รับข้อร้องเรียนจากองค์กรด้านพิทักษ์สุนัขและสัตว์ WATCHDOG THAILAND หรือ WDT ผ่านแอพพลิเคชั่น “DLD 4.0” มีเจ้าของสุนัขในบ้านหลังหนึ่ง ต.ลาดหลุมแก้ว อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี เลี้ยงสุนัขพันธุ์เกรทเดนเพื่อจำหน่าย แต่จำหน่ายไม่ได้ จึงไม่สนใจปล่อยให้อดอาหารตายคากรงไปบ้าง ส่วนที่เหลือ มีอาการน่าเป็นห่วง ผอมจนไม่มีแรงเดิน จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดปทุมธานี ร่วมกับเจ้าหน้าที่กองสารวัตรและกักกัน และตัวแทน WDT เข้าตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าวภายใต้พระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557

        ผลการตรวจสอบพบว่ามีการเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์เกรทเดน จำนวน 13 ตัว เป็นเพศผู้ 5 ตัว เพศเมีย 8 ตัว อายุระหว่าง 5 เดือน – 2 ปี 3 เดือน ทุกตัวอยู่ในสภาพผอมโซ ขาดสารอาหารและน้ำอย่างรุนแรง ซึ่งมีสุนัขอยู่ 3 ตัว ที่อาการอ่อนเพลีย ป่วยรุนแรงมาก และยังไม่พ้นขีดอันตราย ต้องให้สารน้ำ สารอาหาร ยาบำรุง และยาปฏิชีวนะเข้าทางหลอดเลือด โดยมีสัตวแพทย์ดูแลเป็นพิเศษอย่างใกล้ชิด

       นายสัตวแพทย์สรวิศ  กล่าวอีกว่า  ผู้ดูแลสุนัขให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ว่า เจ้าของสุนัขกำลังประสบปัญหาทางด้านการเงิน ทำให้ไม่สามารถเลี้ยงดูแลสุนัขทั้งหมดให้มีความเป็นอยู่ที่ดีได้ โดยผู้ดูแลสุนัขทั้งหมดยินยอมให้เจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์นำสุนัขออกไปรักษาฟื้นฟูและให้การดูแลสภาพร่างกายให้มีสุขภาพดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ ณ สถานพยาบาลสัตว์ของกรมปศุสัตว์ (กองสวัสดิภาพสัตว์และสัตวแพทย์บริการ) ศูนย์ราชการกรมปศุสัตว์ จังหวัดปทุมธานี และเมื่อสัตวแพทย์ของกรมปศุสัตว์ทำการรักษาให้สภาพร่างกายสัตว์ดีขึ้นแล้ว จะดำเนินการด้านจัดสวัสดิภาพสัตว์ให้เหมาะสมกับสุนัขทั้งหมดเหล่านี้ต่อไป ส่วนทางด้านคดีความเจ้าหน้าที่กรมปศุสัตว์ในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ทำการร้องทุกข์กล่าวโทษกับเจ้าของสุนัข ต่อพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรในพื้นที่ เนื่องจากการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557

         “กรมปศุสัตว์ขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบว่า ปัจจุบัน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) อยู่ในระหว่างจัดทำมาตรฐานการเพาะเลี้ยงสัตว์ที่ดีสำหรับคอกสุนัข ซึ่งคาดว่าจะประกาศใช้ในปี 2562 นี้ เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ประกอบการคอกสุนัขมีการจัดการเลี้ยงที่เหมาะสม จะส่งผลดีต่อสุขภาพสุนัข สวัสดิภาพสัตว์และป้องกันการระบาดของโรคที่สำคัญ เช่น โรคพิษสุนัขบ้า โรคไข้หัดสุนัข โรคลำไส้อักเสบติดต่อของสุนัข ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการผลิตลูกสุนัขที่มีสุขภาพแข็งแรง และสุขอนามัยที่ดี ปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้เลี้ยงและลดปัญหาด้านสาธารณสุข ซึ่งผู้ที่มีความประสงค์จะซื้อสุนัข ควรเลือกซื้อจากคอกสุนัขที่ได้มาตรฐาน ซึ่งจะได้ลูกสุนัขที่มีคุณภาพและมีความปลอดภัย เมื่อนำไปเลี้ยงแล้วผู้ที่เป็นเจ้าของควรมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมส่วนรวม และหากนำสัตว์ที่เลี้ยงไว้มาปล่อยทิ้งจะเข้าข่ายมีความผิดตามกฎหมาย สร้างปัญหาให้กับสังคม ส่งผลต่อเนื่องถึงการป้องกัน ควบคุม และกำจัดโรคพิษสุนัขบ้าให้หมดไปจากประเทศไทย จะทำได้ยากยิ่งขึ้น” นายสัตวแพทย์สรวิศกล่าวในที่สุด

          ทั้งนี้ หากประชาชนต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรือพบเห็นการกระทำผิดด้านปศุสัตว์ โปรดติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอรับข้อมูล หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดเพื่อดำเนินการตามกฎหมายผ่านแอพพลิเคชั่น (Application) “DLD 4.0” ที่สามารถดาวน์โหลด และติดตั้งได้ทั้งระบบ iOS ผ่าน App Store และระบบ Android ผ่าน Google play เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจสอบ การกระทำความผิดและดำเนินการตามกฎหมายได้อย่างทันท่วงที