เกษตรกรยื่นหนังสือถึงปรธาน สผผ.แล้ว วอน”หยุดทำร้ายเกษตรกรทั่วประเทศ”

  •  
  •  
  •  
  •  

เครือข่ายอาสาคนรักแม่กลอง พร้อมแกนนำสมาพันธ์เกษตรปลอดภัย และกลุ่มเกษตรปลูกผัก ผลไม้ ข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพด และอ้อย กว่า 100 ราย ไปยื่นหนังสือถึงประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน “พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์” เรียบร้อยแล้ว  พร้อมข้อมูลงานวิจัย ยืนยันไม่พบการตกค้างของสารพาราควอต ตามที่ เอ็นจีโออ้าง วอนให้ หยุดทำร้ายเกษตรกรทั่วประเทศ ด้วยความไม่รู้ ไม่เข้าใจ และอย่าฟังความข้างเดียว ขอให้พิจารณาอย่างเป็นธรรม ย้ำชัดสารเคมีไม่ผิด หากใช้อย่างเหมาะสม

         นางสาวอัญชุลี ลักษณ์อำนวยพร ประธานเครือข่ายอาสาคนรักแม่กลอง เปิดเผยว่า หลังจากที่ผู้ตรวจการแผ่นดินได้แสดงความคิดเห็นต่อการยกเลิกใช้สารพาราควอต ซึ่งขัดแย้งกับ มติคณะกรรมการวัตถุอันตรายที่ให้จำกัดการใช้ โดยให้สามารถใช้ได้ภายใต้การควบคุมอย่างเหมาะสมนั้น เพื่อให้ พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ ในฐานะประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ราชอาณาจักรไทย ได้รับข้อมูลอย่างถูกต้อง และเป็นกลาง จึงได้รวบรวมข้อมูลและมานำเสนอ อ้างอิงจากแหล่งข้อมูลทางวิชาการ ห้องปฏิบัติการกลางที่มีเครื่องมือตรวจสอบและได้รับมาตรฐานสากล ร่วมกับประสบการณ์จริงของเกษตรที่ไม่เคยประสบปัญหาด้านสุขภาพตามข้อกล่าวอ้างต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น พร้อมแสดงผลการตรวจสอบวิเคราะห์ดินและน้ำจากหนองบัวลำภู โดยความร่วมมือจากกรมวิชาการเกษตร ร่วมกับ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม และสาธารณสุขจังหวัดหนองบัวลำภู ที่ยืนยันว่าไม่พบการตกค้างของสารพาราควอต ตามที่องค์กรพัฒนาเอกชน( เอ็นจีโอ) บางกลุ่มเคยกล่าวอ้างมาก่อนหน้านี้

         ด้านนายสุกรรณ์ สังข์วรรณะ เลขาธิการสมาพันธ์เกษตรปลอดภัย กล่าวเสริมว่า ข้อมูลผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของสารพาราควอตได้รับการพิจารณาแล้วว่า ไม่เป็นความจริง เพราะขาดข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ และหลักฐานพิสูจน์ โดยคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการใช้สารเคมีฯ ซึ่งมีนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน จึงอยากให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน หยุดทำร้ายเกษตรกรทั่วประเทศ ด้วยความไม่รู้ ไม่เข้าใจ อย่าฟังความข้างเดียว เปิดใจรับข้อเท็จจริงทั้งสองด้าน และอย่าซ้ำเติมด้วยปัญหาใหม่ที่ส่งผลกระทบทำลายชีวิตเกษตรกรทั่วประเทศกว่า 5 ล้านครอบครัว และเกษตรกรรายย่อย 17-20 ล้านคน

         “ปัจจุบัน ผลผลิตทางการเกษตรตก ราคาต่ำ ต้นทุนเพิ่ม การออกมาเรียกร้องในครั้งนี้ เกษตรกรหวังว่า ผู้ตรวจการแผ่นดิน จะรับฟังและตัดสินอย่างเป็นกลาง โดยใช้ข้อเท็จจริงมากกว่าความคิดเห็น แม้ว่าความจริง แรงจอบ แรงเสียม คงไม่ทัดเทียม แรงปากกา ของท่าน” นายสุกรรณ์ กล่าว