“อ.ยักษ์”เดินหน้าขยายเกษตรทฤษฎีใหม่ตั้งเป้าปีละ 7 หมื่นรายทั่วไทย

  •  
  •  
  •  
  •  

“อ.ยักษ์” ยืนยันมีเกษตรกรจำนวนมากประสบผลสำเร็จจากการนำแนวความคิดเกษตรทฤษฎีใหม่ไปปรับใช้ในการประกอบอาชีพ จนมีรายได้เพิ่มขึ้นสามารถปลดหนี้สิน ครอบครัวมีความสุขบนพื้นฐานของความพอเพียง ตั้งเป้าเดินหน้าขยายต่อให้ครอบคลุมทั้งประเทศ ปีละ 70,000 ราย ใน 882 อำเภอ

นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดโครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนการขยายผลโครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ และร่วมเสวนาในหัวข้อ “สู่ฝันของพ่อ..สานต่อเกษตรทฤษฎีใหม่” ณ วัดมงคลชัยพัฒนา อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี ว่า จากความสำเร็จในการดำเนินงานตามนโยบายเกษตรทฤษฎีใหม่ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ผ่านมา มีเกษตรกรจำนวนมากประสบผลสำเร็จจากการนำแนวความคิดเกษตรทฤษฎีใหม่ไปปรับใช้ในการประกอบอาชีพ จนมีรายได้เพิ่มขึ้นสามารถปลดหนี้สิน ครอบครัวมีความสุขบนพื้นฐานของความพอเพียง กระทรวงเกษตรฯ จึงมีเป้าหมายในการขยายผลทฤษฎีใหม่ให้ครอบคลุมทั้งประเทศ ปีละ 70,000 ราย ใน 882 อำเภอ เฉลี่ยเกษตรกรอำเภอละ 80 ราย เพื่อเป็นต้นแบบของการยกระดับคุณภาพชีวิต โดยให้หน่วยงานราชการทุกหน่วยงานมาร่วมกันขับเคลื่อนนโยบาย ซึ่งเป็นหนึ่งโครงการสำคัญในแผนขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศไทย

สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ กรมชลประทานเป็นหนึ่งหน่วยงานหลักที่ได้ร่วมขับเคลื่อนการขยายผลโครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ อีกทั้งเป็นแหล่งข้อมูลความรู้เรื่องน้ำที่ปัจจัยสำคัญหลักในการทำการเกษตร จึงได้จัดงานเสวนา “สู่ฝันของพ่อ…สานต่อทฤษฎีใหม่” เพื่อเปิดพื้นที่ตลาดนัดความรู้ให้คนทำการเกษตรทฤษฎีใหม่ เครือข่ายต่าง ๆ ที่มีประสบการณ์การทำงานมาแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน ร่วมมือกันวางแผนขับเคลื่อนเกษตรทฤษฎีใหม่ในระดับลุ่มน้ำ เพื่อจะออกแบบต้นแบบที่จะนำไปสู่การปฏิบัติได้จริง ซึ่งในการพูดคุยเสวนาครั้งนี้จะใช้กลไกหลัก 3 อย่าง คือ S-Support (หนุน/ปลดล็อค) D-Driver (คน/พื้นที่) และ F-Function (กลไกราชการ) เพื่อให้ได้ตัวชี้วัดกลไกการขับเคลื่อนระยะยาว รวมถึงข้อสรุปที่จะสนับสนุนการทำงานให้สำเร็จเป็นไปตามแผนขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศไทย และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการเกษตรทฤษฎีใหม่จะขยายวงกว้างออกไปมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะเป็นแนวทางที่จะพัฒนาการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนได้จริง” นายวิวัฒน์ กล่าว

            ด้านนายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากรวบรวมเครือข่ายผู้มีประสบการณ์จริงในการทำเกษตรทฤษฎีใหม่มาไว้ด้วยกันแล้ว ภายในงานยังมีหัวข้อเสวนาที่น่าสนใจ เช่น ความเป็นมา กลับสู่รากเหง้าเกษตรทฤษฎีใหม่แห่งแรก Tentative Formula สู่โคก หนอง นา โมเดล , เส้นทางคนรุ่นใหม่ Start Up เกษตรทฤษฎีใหม่, การขับเคลื่อนโครงการพัฒนาระบบกสิกรรมด้วยศาสตร์พระราชาของลุ่มน้ำปราจีน (ลุ่มน้ำย่อยห้วยโสมง) และลุ่มน้ำป่าสัก เป็นต้น รวมไปถึงการจัดนิทรรศการที่แบ่งเป็น 5 โซน ได้แก่ โซนที่ 1 เรื่องราวของรากเหง้าเกษตรทฤษฎีใหม่ โซนที่ 2 ตามรอยเท้าพ่อ..สู่ฐานเรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่แห่งแรก โซนที่ 3 สานฝันของพ่อ..พัฒนาลุ่มน้ำป่าสักตามแนวพระราชดำริ โซนที่ 4 แปลงตัวอย่างเกษตรทฤษฎีใหม่ประยุกต์ (โคก หนอง นา โมเดล) และสุดท้ายตลาดนัดเกษตรทฤษฎีใหม่และเครือข่าย