คณะอนุกรรมาธิการการจัดการน้ำทั้งระบบ มลพิษและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา ยกทีมลงพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก จับมือชุมชน ร่วมกันจัดการขยะอย่างยั่งยืน ประธานคณะอนุฯ รับปากพร้อมให้การสนับสนุนในทุกมิติที่จำเป็น หวังสร้างเมืองสองแควเป็นเมืองสะอาดและปลอดภัย
เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 2568 ที่ผ่านมา นายจำลอง อนันตสุข เลขานุการคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา พร้อมด้วยนายไพบูลย์ ณะบุตรจอม ประธานคณะอนุกรรมาธิการการจัดการน้ำทั้งระบบ มลพิษและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา ในคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติฯ และคณะได้ลงพื้นที่ศึกษาดูงานจังหวัดพิษณุโลก โดยได้เข้ารับฟังบรรยายสรุปการบริหารจัดการขยะและบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก ที่ห้องประชุมสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก
โดยมีนายบุญเหลือ บารมี รองผู้ว่าการจังหวัดพิษณุโลก เป็นผู้กล่าวรายงาน จากนั้นหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องอาทิ เทศบาลนครพิษณุโลก องค์การบริหารส่วนจังหวัดพิษณุโลก ตัวแทนสำนักงานชลประทานที่ 3 ฯลฯ ได้บรรยายสรุป พร้อมทั้งตอบข้อซักถามของคณะอนุกรรมการฯ และที่ปรึกษา ร่วมสองชั่วโมง
ไพบูลย์ ณะบุตรจอม
นายไพบูลย์ ณะบุตรจอม กล่าวว่า คณะอนุกรรมาธิการฯ ได้รับฟังข้อมูลและผลการดำเนินงานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง ทำให้เข้าใจถึงสถานการณ์ปัญหาขยะอย่างละเอียด และเห็นถึงความพยายามในการแก้ไขปัญหาของทุกหน่วยงาน ซึ่งคณะอนุกรรมาธิการฯ พร้อมที่จะให้การสนับสนุนในทุกด้านที่จำเป็น ไม่ว่าจะเป็นการผลักดันงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการต่างๆ หรือการประสานงานกับหน่วยงานอื่นๆ เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาที่ครอบคลุมเหมาะสมกับสภาพปัญหาและบริบทของพื้นที่ ซึ่งจะช่วยให้การแก้ไขปัญหามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ด้านนายจำลอง อนันตสุข เลขานุการคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา เผยว่า คณะอนุกรรมาธิการฯ มีความห่วงใยต่อผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากปัญหาดังกล่าว และเห็นว่าการให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับการคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทางเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการแก้ไขปัญหา ซี่งจากการรับฟังครั้งนี้เป็นสัญญาณที่ดีที่ภาครัฐพร้อมที่จะร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน หากทุกภาคส่วนร่วมมือกันอย่างจริงจัง เชื่อว่าปัญหาขยะในจังหวัดพิษณุโลกจะได้รับการแก้ไขอย่างมีประสิทธิภาพในอนาคตอันใกล้
สำหรับการลงพื้นที่ในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจของคณะอนุกรรมาธิการฯ ต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ และเป็นสัญญาณที่ดีที่ภาครัฐและภาคประชาชนจะร่วมมือกันแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง