ก.เกษตรฯเดินหน้า 8 โครงการฟื้นฟูเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย หลัง ครม.อนุมัติงบฯกลางกว่า 2.5 พันล้าน

  •  
  •  
  •  
  •  

กระทรวงเกษตรฯเดินหน้าฟื้นฟูเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย  8 โครงการ หลังจากครม.อนุมัติงบฯกลางกว่า 2,553 ล้านบาท เน้นการฟื้นฟูอาชีพ พื้นที่เกษตรหลังน้ำลดและซ่อมแซมเครื่องจักรกลเกษตร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้เกษตรกร พร้อมลดดอกเบี้ยเงินกู้ให้แก่สมาชิกสหกรณ์ และกลุ่มเกษตรกรที่ประสบภัยน้ำปี 2567 ด้วย

ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 พ.ย.67 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อดำเนินแผนงาน/โครงการฟื้นฟูเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย ปี 2567 กรอบวงเงิน 2,553.0098 ล้านบาท ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ วัตถุประสงค์ เพื่อฟื้นฟูให้เกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย ปี 2567 สามารถทำการผลิตได้ทันทีหลังน้ำลด เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนแก่เกษตรกรผู้ประสบภัย ให้สามารถประกอบอาชีพการเกษตรได้อย่างต่อเนื่อง สามารถสร้างรายได้และผลผลิตเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในครัวเรือนได้ในระยะเวลาอันสั้น

สำหรับแผนงานหรือโครงการฟื้นฟูเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย ปี 2567 จำนวน 8 โครงการ วงเงินงบประมาณ 2,553.0098 ล้านบาท ดังนี้ 1.การฟื้นฟูอาชีพหลังน้ำลด ได้แก่ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย (กรมการข้าว),โครงการสกัดการระบาดของโรคแมลงศัตรูพืช เชื้อรา และการสนับสนุนพันธุ์พืช และปัจจัยการผลิตเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยพิบัติ ปี 2567/2568 (กรมวิชาการเกษตร),โครงการฟื้นฟูเกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมที่ประสบอุทกภัย (กรมหม่อนไหม),โครงการฟื้นฟูอาชีพเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยปี 2567 (กรมปศุสัตว์) และโครงการส่งเสริมทางเลือกอาชีพด้านประมง การเลี้ยงสัตว์น้ำในบ่อพลาสติกและในกระชังบก (กรมประมง),และ  2.การฟื้นฟูพื้นที่เกษตรและซ่อมแซมเครื่องจักรกลเกษตร ได้แก่ โครงการปรับระดับพื้นที่เกษตรและฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยระยะหลังน้ำลด ปี 2567 (กรมพัฒนาที่ดิน) และการซ่อมแซมและฟื้นฟูเครื่องจักรกลเกษตรขนาดเล็กหลังน้ำท่วม (กรมวิชาการเกษตร)

ศ.ดร.นฤมล ยังกล่าวถึงการลดภาระหนี้สินของสมาชิกสถาบันเกษตรกรและกลุ่มเกษตรกร ว่า การลดดอกเบี้ยเงินกู้ให้แก่เกษตรกรสมาชิกสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกรที่ประสบอุทกภัยปี 2567 รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยให้สหกรณ์ กลุ่มเกษตรกรแทนสมาชิก ต้นเงินกู้ไม่เกิน 300,000 บาท ในอัตราร้อยละ 3 ต่อปี เป็นระยะเวลา 1 ปี ทั้งนี้ ส่วนต้นเงินกู้ที่เกินกว่า 300,000 บาท คิดดอกเบี้ยในอัตราปกติ และขยายระยะเวลาการชำระหนี้สมาชิกสหกรณ์ และกลุ่มเกษตรกร โดยขอความร่วมมือให้สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรขยายระยะเวลาการชำระหนี้ในสัญญาเงินกู้ของสมาชิกที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติด้านการเกษตร