โดย…นายสวีสอง
ในบรรดาไม้ประดับ “ไข่ดาว” นับเป็นไม้ประดับที่ได้รับความนิยมอีกชนิดหนึ่ง จัดอยู่ในไม้มงคล ที่มีดอกสวยงาม และออกดอกตลอดปี ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆทั้งวัน เป็นพืชที่ปลูกง่าย โตเร็ว ต้องการน้ำไม่มาก จึงนิยมปลูกเป็นไม้ประดับตามบ้านเรือน หรือสถานที่ต่างๆ
เป็นไม้พุ่มกึ่งไม้ยืนต้นขนาดเล็กสูงเต็มที่ไม่เกิน 10 เมตร แตกกิ่งก้านสาขาจำนวนมาก เปลือกลำต้นเป็นสีน้ำตาลอมเทา ตามลำต้นและกิ่งจะมีหนามแหลมยาวราว 5-7 ซม.มีชื่อวิทยาศาสตร์ Oncoba spinosa Forssk. อยู่ในวงศ์ FLACOURTIACEAE
ใบ เป็นไปเดี่ยวรูปทรงรี ออกเรียงสลับช่วงปลายๆของกิ่ง ก้านใบยาว 0.6-1 ซม.โคนใบสอบมน ปลายใบแหลม ผืนใบมีสีเขียว เรียบ มีเห็นเส้นกลางใบและแขนงใบเห็นได้ชัดเจน ขอบใบเป็นหยักถี่ๆ แบบฟันเลื่อย กว้าง 3.5-6 ซม.ยาวประมาณ 6-14 ซม. ใบอ่อนสีน้ำตาลอมแดง
ดอก ออกเป็นช่อเดี่ยว ตามซอกใบและปลายกิ่ง ดอกบานมี10 กลีบติดกัน ออกมาเป็นวงกลม สีขาวรูปไข่กลับ กลีบดอกยาวราว 2.5-3.5 ซม. มีกลีบเลี้ยงรูปไข่กว้างจำนวน 4 กลีบ ตรงกลางดอกมีเกสรเพศผู้สีเหลืองอยู่เป็นจำนวนมาก มองดูไกลๆนูนคล้ายไข่ดาว มีรังไข่กลมๆ อยู่เหนือวงกลีบ มีอับเรณูยาวประมาณ 2-3 มม. เส้นผ่านศูนย์กลางของดอกที่บานเต็มที่ราว 8-10 ซม. มีกลิ่นหอมอ่อนๆ โดยเฉพาะช่วงที่มีอากาศเย็นๆ และสามารถให้ดอกดกได้ตลอดทั้งปี
จำหน่ายสร้อยคอผู้หญิงยอดนิยม เช่น จี้ โชคเกอร์ และchain necklace เลือกซื้อเครื่องประดับที่ทำจากโลหะและอัญมณีหลากหลายชนิดเพื่อให้เหมาะกับทุกโอกาส
ผล รูปทรงกลม ผิวผลเรียบ มีสันตื้นๆ รอบผลราว 8 สัน เปลือกผลแข็ง มีกลีบเลี้ยงติดแน่นอยู่ที่ขั้วผล ผลอ่อนมีสีเขียว เมื่อแก่จะกลายเป็นสีน้ำตาลอมแดง มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางราว 5-6 ซม.ด้านในมีเมล็ดรูปไข่สีน้ำตาลดำจำนวนมาก เมล็ดยาวราว6-7 มม.
การขยายพันธุ์ ด้วยการเพาะเมล็ด หรือการตอนกิ่ง ต้องการแสงแดดแบบเต็มวัน ปลูกเลี้ยงได้ง่าย โตเร็วชอบดินร่วนสภาพอากาศที่แห้งแล้ง