“แสงจันทร์” ใบนวลผ่อง ต้องให้ผู้หญิงปลูกวันอังคาร
โดย…นายสวีสอง
คงสมชื่อ “แสงจันทร์ “ เพราะใบมีสีเหลืองอ่อนอมเขียว เมื่อกระทบกับแสงจันทร์จึงเกิดเป็นประกายสีนวล ดูสดใส และอ่อนโยนเหมือนกับแสงจันทร์เป็นอย่างยิ่ง ทำให้คนไทยโบราณเชื่อกันว่าหากปลูกต้นแสงจันทร์ติดบ้านไว้ จะช่วยเสริมให้บ้านแลดูอบอุ่น งดงาม ส่วนผู้คนในบ้านก็สุขุม เรียบร้อย อ่อนโยน ราวกับกริยาของผู้หญิง และเป็นมงคลกับชีวิตได้ จึงผู้หญิงเป็นผู้ปลูกให้ ถ้าจะให้ดีต้องวันอังคาร ปลูกไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้
“แสงจันทร์” มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่แทบอเมริกา แพร่พันธุ์มาที่ศรีลังกา และฟิลิปปินส์ ต่อมากระจายไปทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงในประเทศไทย เป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงเต็มที่ราว 12 เมตร มีชื่อวิทยาศาสตร์ที่ว่า Pisonia grandis R. Br.จัดอยู่ในวงศ์ “NYCTAGINACEAE” ชื่อสามัญคือ “Lettwee Tree” เป็นไม้ที่ที่ชอบขึ้นตามป่าที่มีสภาพดินร่วนซุย มีแสงแดดรำไร ต้องการน้ำและความชื้นปานกลาง
เท่าที่ปลูกมาพบเห็นไม้ชนิดนี้ เป็นพรรณไม้ที่ไม่ค่อยมีปัญหาด้านโรค และศัตรูพืชมารบกวน ทำให้ใบสมบูรณ์ตลอดเวลา นักเล่นต้นไม้นิยมปลูกมาก โดยเฉพาะบ้านที่มีเนื้อที่มากๆ บางวพื้นที่เรียกว่า ต้นบานลึก , ดอกพระจันทร์ และแสงนวลจันทร์ ขึ้นอยู่กับแล้วแต่ท้องถิ่น ผิวเปลือกต้นเรียบ สีขาวเทา แตกกิ่งก้านสาขาออกไปรอบๆลำต้น ทำให้แล้วเป็นพุ่มสวย ที่สำคัญใบรับประทานได้ รสคล้ายผักกาดหอม ใช้เป็นผัก หรือรองห่อหมกก็ได้ ส่วนจะปลูกเป็นไม้ประดับทั่วไป
ใบ เป็นเดี่ยว ออกเรียงตรงข้ามสลับตั้งฉาก รูปรีหรือรูปรีแกมรูปใบหอกค่อนข้างใหญ่ มีขนาดกว้าง 10-15 ซม. ยาว 15-35 ซม. ก้านใบอวบยาว 2.5-4 ซม.โคนใบมนขอบใบเป็นคลื่นเล็กน้อย แผ่นใบค่อนข้างบางและอ่อน ปลายใบแหลม สีเหลืองอมเขียว ผิวใบด้านล่างสีนวล ใบอ่อนสีเหลืองนวลหรือเหลืองอมเขียวอ่อน ยามที่กระทบกับแสงจันทร์ช่วงเต็มดวง จะมีประกายแสงสีเหลืองนวลจาง และสดใส ดังแสงพระจันทร์ทีเดียว คงเป็นเหตุนี้กระมัง เขาจึงเรียกว่า “แสงจันทร์”
[adrotate banner=”3″]
ดอก จะออกเป็นช่อ ออกตามปลายกิ่งและยอด แต่ละช่อจะมีดอกเล็กๆออกมาราย 10-15 ดอก แต่ละดอกจะมี 5 กลีบ ดอกสีขาวสดใส แต่ภาพรวมทั้งหมดต้นไม้ชนิดนี้จะเด่นหรือมีเสน่ห์ที่ใบมากกว่า
เท่าที่เห็นไม่พบการติดผล จึงขยายพันธุ์โดยการปักชำกิ่งขนาดใหญ่และตอนกิ่งปลูกในกระถางได้สามารถควบคุมต้นได้ แต่หากปลูกลงดินต้น “แสงจันทร์”จะเติบโตเต็มที่