“อนุชา” ถือโอกาสการประชุม ครม.สัญจร ดอกลุยท่าเทียบเรือประมงระนอง แนะใช้สารเร่ง พด.6 ลดกลิ่นคาว

  •  
  •  
  •  
  •  

“อนุชา” ถือโอกาสการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรนอกสถานที่ ลุยท่าเทียบเรือประมงระนอง หนุนใช้ร่วมกันให้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมเล็งให้ปรับรูปทำแบบการค้าให้หลากมิติ แนะใช้สารเร่ง พด.6 ลดกลิ่นคาวปลาจากการขนถ่ายสินค้า หวังสร้างเม็ดเงินเข้าประเทศ

วันที่ 22 มกราคม 2567  นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมท่าเทียบเรือประมงระนอง องค์การสะพานปลา ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง พร้อมด้วย ผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในโอกาสการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ (ครม.สัญจร) 1/2567 จ.ระนอง ระหว่างวันที่ 22 – 23 มกราคม 2567 ว่า รัฐบาล โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ความสำคัญในเรื่องการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของภาคการประมง ตนในฐานะกำกับดูแลองค์การสะพานปลา จึงมีแนวคิดที่จะส่งเสริมและยกระดับสะพานปลา และอาชีพประมงให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีรายได้เพิ่มขึ้น รวมไปถึงพัฒนาตลาดสินค้าสัตว์น้ำให้มีความทันสมัย มีมาตรฐานด้านสุขอนามัย และสนับสนุนให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เพื่อให้มีเศรษฐกิจที่ดีขึ้น

สำหรับท่าเทียบเรือประมงระนอง ขององค์การสะพานปลา เป็นท่าขนถ่ายและจำหน่ายสินค้าสัตว์น้ำสำคัญของจังหวัด ที่มีการขนถ่ายสินค้าสัตว์น้ำจากประเทศเพื่อนบ้าน (เมียนมาร์) และเป็นท่าเทียบเรือที่ได้รับการรับรองสุขอนามัยสะพานปลาและท่าเทียบเรือประมง จากกรมประมง โดยในปี 2566 ที่ผ่านมา มีปริมาณสัตว์น้ำผ่านท่า ทั้งสิ้นประมาณ 6,623 ตัน (6,623,481 กิโลกรัม) คิดเป็นมูลค่าสินค้า 635 ล้านบาท ท่าเทียบเรือประมงแห่งนี้ นอกจากจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนเรื่องสถานที่จอดเรือประมงให้แก่พี่น้องชาวประมงแล้ว ยังช่วยสร้างรายได้ และทำให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนในชุมชนด้วย

“ท่าเทียบเรือประมงขององค์การสะพานปลา นับว่าเป็นสถานที่ที่สร้างประโยชน์ร่วมกันให้กับพี่น้องประชาชน ชุมชนชาวประมง รวมถึงประมงประเทศเพื่อนบ้าน ที่มาขึ้นสินค้าสัตว์น้ำเป็นจำนวนถึง 80% ช่วยเพิ่มเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจ ทำรายได้เข้าสู่ประเทศ ดังนั้น ในอนาคตจึงจำเป็นที่จะต้องมีการปรับปรุง และพัฒนาต่อยอดให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น เช่น การปรับรูปแบบการค้าขายสัตว์น้ำให้มีมิติที่หลากหลาย การปรับปรุงสุขอนามัยท่าเทียบเรือโดยใช้สารเร่ง พด.6 ลดกลิ่นคาวปลาจากการขนถ่ายสินค้า เป็นต้น“ นายอนุชา กล่าว

ทั้งนี้ องค์การสะพานปลา ได้เข้าทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ พื้นที่ 45 ไร่ จากกรมป่าไม้ ซึ่งติดกับท่าเรือน้ำลึก อีกทั้ง ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) จังหวัดระนอง ได้ประสานขอใช้ประโยชน์ที่ดินจำนวน 10 ไร่ จากองค์การสะพานปลา เพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างศูนย์ฝึกอบรมองค์การสะพานปลา ใช้เป็นสถานที่ก่อสร้างอาคารที่ตั้งสำนักงานศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล จังหวัดระนอง และศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัดระนอง ซึ่งองค์การสะพานปลากำลังดำเนินการประสานขอเข้าทำประโยชน์ 10 ไร่ กับกรมป่าไม้ ต่อไป