เลี้ยงปลาเนื้ออ่อน(ชะโอน) ในบ่อพลาสติกแบบฉบับคนเมือง เลี้ยงง่าย ราคาดี ป้อนร้านอาหาร กก.ละ 400 บาท

  •  
  •  
  •  
  •  

โดย…หนึ่งฤทัย แพรสีทอง

หากพูดถึงปลาเนื้ออ่อน เรามักจะนึกไปถึงปลาแดง (Phalacronotus bleekeri.) ซึ่งลำตัวจะออกสีแดงเรื่อๆ ที่เห็นขายกันทั่วไปในท้องตลาด แต่จริงๆแล้ว ปลาเนื้ออ่อน เป็นชื่อวงศ์ที่เรียกเหมารวมปลาหนังหรือปลาไม่มีเกล็ด ที่มีลำตัวเพียว ตัวแบน ปากกว้าง ซึ่งในวงศ์ปลาเนื้ออ่อน (Siluridae) มีหลายสายพันธุ์ อาทิ ปลาแดง ปลาน้ำเงิน ปลาชะโอน รวมถึงปลาเค้า ที่ถือว่าเป็นปลาในตระกูลปลาเนื้ออ่อนที่ใหญ่ที่สุด มีขนาดลำตัวยาวได้ถึง 1 เมตร มีน้ำหนักกว่า 50 กก. (เคยพบสูงสุดยาวกว่า 2 เมตร น้ำหนัก 80 กก. สถิติใหญ่ที่สุดพบที่ปากน้ำโพ จ.นครสวรรค์)

อย่างที่บอกเราจะคุ้นเคยกับปลาแดงซึ่งเป็นปลาที่พบได้มากตลอดลำน้ำเจ้าพระยา ลพบุรี ปากน้ำโพ ป่าสัก และชุกชุมมากในแม่น้ำโขง ใครที่ทานปลาสดๆ จึงมักจะไปทานที่ร้านอาหารริมแม่น้ำโขงกัน ทางอีสานจะเรียก ปลาแดงว่า ปลาเซือม ซึ่งปลาแดงในปัจจุบันยังไม่สามารถเพาะพันธุ์ได้ เราจะจับจากธรรมชาติเป็นหลัก

ส่วนปลาเนื้ออ่อนของทางภาคใต้เรามักจะได้ยินชื่อ ปลาชะโอน ( Ompok bimaculatus.) ซึ่งจะออกสีคล้ำๆ แต่ลักษณะอื่นเหมือนปลาแดง ในภาคใต้จะพบปลาชะโอนมากในแม่น้ำตาปี อย่างไรก็ตาม สีของปลาจะแตกต่างกันตามสภาพน้ำที่ปลาอยู่ด้วย ถ้าน้ำใสมาก ตัวปลาจะยิ่งออกสีคล้ำมากขึ้น ปลาแดงบางแหล่งสีเทาเข้มเลยก็มี ซึ่งก็มีการถกเถียงกันพอสมควรในตลาดซื้อขายปลา แต่ไม่ว่าจะเป็นปลาชนิดไหน ความอร่อยของเนื้อปลาในวงศ์ปลาเนื้ออ่อนไม่แพ้กันเลย จึงทำให้ปลาเนื้ออ่อนเป็นปลาที่มีราคาสูงและได้รับความนิยมในการบริโภค

วันนี้เราจะพาไปดูการเลี้ยงปลาชะโอน หรือปลาเนื้ออ่อนที่เราจะเรียกกันในที่นี้ เป็นการเลี้ยงปลาเนื้ออ่อนในบ่อปูน บ่อพลาสติกตามแบบฉบับคนเมืองที่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ซึ่งใช้พื้นที่ไม่เยอะก็สามารถเลี้ยงปลาขายในราคาแพงได้และตลาดก็มีความต้องการสูง ของ คุณสุชน สมคิด หรือที่เรียกกันติดปากว่า เสธตุล ซึ่งทำบ่อเลี้ยงปลาในบริเวณบ้าน แถมยังได้รับใบรับรองการปฏิบัติทางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ดีสำหรับการผลิตสัตว์น้ำน้ำ หรือ มาตรฐาน GAP นั่นเอง ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาเลยล่ะ

เสธตุล เลี้ยงปลาเนื้ออ่อนเป็นอาชีพด้วยความชอบและเลี้ยงเป็นอาชีพเสริม โดยมีงานหลักเป็นถึงผู้จัดการในระดับบริหาร ของ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น เสธตุลมองว่า ปลาเนื้ออ่อนมีราคาแพงและตลาดมีความต้องการสูง จึงสนใจและศึกษาข้อมูลต่างๆ ทั้งจากในเน็ตและขอความรู้จากสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ของกรมประมง จนประสบความสำเร็จในการเลี้ยงเป็นอย่างดี ปลาเนื้ออ่อนรุ่นนี้เสธตุลเลี้ยงทั้งหมด 1 หมื่นตัว เลี้ยงในบ่อปูน 6000 ตัว บ่อพลาสติก 4000 ตัว

บทความที่สนับสนุน ค้นหาบางสิ่งสำหรับทุกคนในคอลเลกชันถุงเท้าสีสันสดใส สดใส และมีสไตล์ของเรา ซื้อแยกหรือเป็นชุดเพื่อเพิ่มสีสันให้กับลิ้นชักsock ของคุณ!

เสธตุล บอกว่า ปลาเนื้ออ่อนเลี้ยงไม่ยาก หากเข้าใจ ที่นี่จะมีการเลี้ยงทั้งบ่อดิน บ่อปูนและบ่อพลาสติกหรือบ่อผ้าใบ การเลี้ยงปลาทุกชนิดดีที่สุดต้องเลี้ยงในบ่อดิน เพราะสภาพใกล้เคียงกับธรรมชาติ มีอาหารจากธรรมชาติให้ปลากิน ปลาจะโตเร็ว สุขภาพดี ต้นทุนต่ำ คุณภาพเนื้อดี และไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำ ปล่อยยาวได้เลย แต่ข้อเสียก็คือ เวลาจับขายต้องวิดน้ำออกและจับขายทั้งบ่อ ส่วนบ่อปูนจะมีต้นทุนในส่วนของการสร้างบ่อปูนและไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ส่วนบ่อพลาสติกต้นทุนบ่อไม่สูงและสามารถเคลื่อนย้ายได้ แต่ทั้งบ่อปูนและบ่อพลาสติกต้องมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำทุกอาทิตย์ อีกทั้งการเจริญเติบโตก็จะสู้บ่อดินไม่ได้ ต้นทุนการเลี้ยงก็จะสูงกว่าทั้งในส่วนของระบบการจัดการบ่อและต้นทุนค่าอาหาร

บ่อพลาสติกของเสธตุลมีขนาด 3×3 เมตร ลึก 1.80 เมตร บ่อนี้เสธตุลซื้อมือสองมาในราคา 6000 บาท ระดับน้ำสำหรับเลี้ยงปลาควรลึกอย่างน้อย 1.50 เมตร ด้านข้างบ่อจะทำระบบกรองน้ำไว้ ซึ่งเป็นระบบกรองนอกบ่อ โดยใช้ถังพลาสติกขนาด 200 ลิตร ใส่แผ่นกรองฟิลเตอร์เมต แล้วต่อท่อเอาน้ำจากบ่อมาผ่านถังกรองแล้ววนกลับเข้าบ่ออีกรอบ เป็นระบบกรองแบบง่ายๆ ต้นทุนไม่สูง แผ่นกรองก็ฉีดน้ำล้างทำความสะอาดอาทิตย์ละครั้ง นอกจากนี้จะมีกรองในบ่อโดยใช้เครื่องบำบัดน้ำ(ราคาประมาณ 12000-15000 บาท) เพื่อเพื่อดึงตะกอนและแอมโมเนียขึ้นมาผ่านการบำบัด พร้อมกับเพิ่มออกซิเจนด้วยการอัดน้ำอีกด้วย เครื่องบำบัดน้ำจะเปิดทุก 2 ชั่วโมงทุกวัน

บ่อนี้ปล่อยลูกปลาลงเลี้ยง 4000 ตัว โดยซื้อลูกปลามาจากศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด ลพบุรี เสธตุลบอกว่า มีศูนย์วิจัย ฯ เพียง 4 แห่งเท่านั้นที่จำหน่ายลูกพันธุ์ปลาตอนนี้ คือ ลพบุรี สระบุรี อ่างทอง ชลบุรี ราคาลูกปลาตัวละ 1 บาท แต่จองลูกปลานานเพราะคิวยาว 5-6 เดือน หรือ 7-8 เดือน หรืออาจถึงปีก็ได้ แต่ก็มีเอกชนหลายที่ที่จำหน่ายลูกพันธุ์ ดูในเน็ตได้เลย แต่ราคาลูกพันธุ์จะราคาสูง ขายกันตัวละ 4 บาท ใครที่ไม่อยากรอก็ซื้อมาเลี้ยงได้เลย

การเลี้ยงไม่มีอะไรมาก ระดับน้ำต้องสูง 1.50 เมตร เป็นอย่างน้อย ที่นี่จะเปลี่ยนถ่ายน้ำทุกอาทิตย์ โดยเอาน้ำในบ่อออกและเติมน้ำใหม่เข้าประมาณ 30% ที่นี่ใช้น้ำประปาเลี้ยง ทุกครั้งที่เปลี่ยนถ่ายน้ำจะต้องเติมสารแอนตี้คลอรีนเพื่อปรับสภาพปรับสภาพน้ำและละลายก่อน ง่ายๆ ตวงและเติมไปครั้งละ1- 2 ฝา(1 ฝาหรือ 50 ซีซี.ต่อน้ำ 1 ตัน)

ส่วนการให้อาหารช่วงแรกจะให้อาหารลูกปลา โปรตีนสูงประมาณ 42% ไฮเกรด ของ ซีพี อายุ 3 เดือน เริ่มผสมอาหารปลาดุกเม็ดกลาง โปรตีน 30-32 % ให้กินไปสัก 1 เดือน อายุ 4 เดือนก็ให้อาหารเม็ดกลางอย่างเดียวได้ตลอดเลย ปริมาณที่ให้ก็ขึ้นอยู่กับช่วงอายุของปลา สังเกตง่ายๆคือ ถ้าให้อาหารแล้วอย่าให้อาหารเหลือ แต่ก็ระวังอย่าให้อาหารเยอะเกินไป ถ้าปลากินเยอะปลาจะไขมันเยอะ เนื้อไม่อร่อย อย่างปลา 4000 ตัว อายุ 4 เดือนจะให้ประมาณ 1 ขีดต่อมื้อ อาหารจะให้ 6 มื้อ 6 โมงเช้า เที่ยง 6 โมงเย็น 4 ทุ่มและเที่ยงคืน รอบของการให้อาหารเราอาจปรับให้เหมาะกับการทำงานของเราได้ ถ้าในบ่อเดินจะให้อาหารแค่ 3 มื้อ เช้า กลางวัน เย็น เพราะมีอาหารธรรมชาติในบ่ออยู่ส่วนหนึ่งแล้ว

ปลาเนื้ออ่อนเลี้ยงไม่ยาก แต่ระยะเวลาการเลี้ยงอาจจะนานหน่อย จะว่าไปแล้วปลาราคาแพงส่วนใหญ่ก็จะเลี้ยงนานทั้งนั้น ปลาสลิดก็เลี้ยง 7-8 เดือน ปลาเนื้ออ่อนจะเลี้ยง 10-12 เดือน ขึ้นอยู่กับว่าเราจะจับขายเมื่อตัวขนาดเท่าไหร่ ถ้าไซด์ 10 ตัวต่อ กก.ก็จะเลี้ยงประมาณ 1 ปี จะเป็นไซด์ที่ตลาดต้องการโดยเฉพาะร้านอาหาร เมนูยอดฮิตก็จะมี ปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียม ฉู่ฉี่ปลาเนื้ออ่อน เสธตุลจะจับขายตามออเดอร์ โดยแยกปลาสำหรับจับขายไว้ในกระชังเล็กในบ่อใหญ่ เพื่อจะได้ไม่ไปกวนปลาในบ่อเวลาจับขายเพราะการตักกวนปลาบ่อยๆจะทำให้ปลาไม่กินอาหารได้ ราคาขาย กก.ละ 400 บาท ลูกค้าก็จะเป็นร้านอาหารเป็นหลักและหมู่บ้านละแวกใกล้เคียง อีกส่วนมาจากเพจที่จะส่งปลาแช่แข็งใส่ลังโฟมไป ซึ่งก็ทยอยจับขายไปเยอะแล้ว

ส่วนค่าตอบแทน เสธตุลบอกว่า ตอนนี้ยังจับปลาขายไม่หมด แต่ประเมินแล้วน่าจะเป็นรายได้ที่ดีทีเดียว การเลี้ยงปลาดูแลไม่มาก ต้นทุนไม่สูง แค่ใช้เวลานาน ตัวเขาเองไปทำงานประจำทุกวัน การให้อาหารก็ให้คนที่บ้านคอยให้ตามเวลา ราคาลูกพันธุ์  10,000 บาท ต้นทุนค่าอาหารเดือนละ 2000 บาท หนึ่งปีก็ 24,000 บาท คิดค่าน้ำค่าไฟและอื่นๆ รวมไปแล้ว ก็น่าจะลงทุน 7-8 หมื่น ถ้าตีว่า 10,000 ตัว เสียหายไปสัก 1,000 ตัว เหลือ 9000 ตัว ขนาด 10 ตัว/กก.ก็จะขายได้ประมาณ 350,000 บาท

การเลี้ยงปลาเนื้ออ่อน (ชะโอน) เป็นอาชีพที่น่าสนใจ และนับว่าเป็นอาชีพที่มีรายได้ที่เยอะทีเดียว และเป็นปลาที่น่าเลี้ยงมาก เพราะสามารถขายได้ราคาแพงและตลาดมีความต้องการสูง ใครที่สนใจต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม เสธตุล บอกยินดี ติดต่อได้ที่ โทร 0824746161